ลอนดอน 17 ต.ค.- รัฐบาลอังกฤษสั่งทบทวนมาตรการอารักขาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) หลังเกิดเหตุ สส.ถูกแทงเสียชีวิตในเหตุการณ์ที่ตำรวจระบุว่า เป็นการก่อการร้ายที่อาจโยงกับแนวคิดสุดโต่ง
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษและนายเคียร์ สตาร์เมอร์ ผู้นำพรรคแรงงานที่เป็นฝ่ายค้าน เดินทางไปวางดอกไม้หน้าโบสถ์เมืองลีออนซี ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน จุดที่นายเดวิด เอมิสส์ สส.พรรคอนุรักษ์นิยม วัย 69 ปี ถูกแทงเสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ขณะพูดคุยกับประชาชน ด้านนางปรีติ ปาเตล รัฐมนตรีมหาดไทยสั่งการตำรวจทั่วประเทศ ทบทวนมาตรการอารักขา สส.ทั้ง 650 คน และยืนยันว่า สังคมอังกฤษจะเปิดกว้างและเป็นประชาธิปไตยต่อไป โดยไม่ยอมให้บุคคลใดข่มขู่ ขณะที่นายลินด์ซีย์ ฮอยล์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรรับปากว่า จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมตามที่จำเป็น
ตำรวจอังกฤษระบุว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นชายวัย 25 ปี ตำรวจกำลังสอบสวนว่า อาจมีแรงจูงใจที่โยงกับแนวคิดสุดโต่ง โดยให้หน่วยต่อต้านก่อการร้ายเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้เพราะถือว่าเป็นการก่อการร้าย สื่ออังกฤษหลายแห่งอ้างแหล่งข่าวที่สันนิษฐานว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นชาวอังกฤษเชื้อสายโซมาเลีย เขาจ้วงแทง สส.เอมิสส์หลายครั้ง ก่อนนั่งรอตำรวจมาควบคุมตัว เหตุอุกอาจนี้ทำให้หลายคนนึกถึงเหตุฆาตกรรม สส.โจ ค็อกซ์ พรรคแรงงานที่สนับสนุนให้อังกฤษอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป สมาชิกขวาจัดคนหนึ่งแทงเธอเสียชีวิตในเดือนมิถุนายน 2559 ก่อนการลงประชามติเรื่องเบร็กซิต.-สำนักข่าวไทย