นิวยอร์ค 13 ต.ค. – บลูมเบิร์ก นิวส์ รายงานในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ ว่า ทางบริษัทแอปเปิ้ลมีแนวโน้มว่าจะต้องลดปริมาณการผลิตไอโฟน 13 เป็นจำนวน 10 ล้านหน่วยเป็นอย่างมากทีสุดเนื่องจากวิกฤติการณ์ขาดแคลน “เซมิคอนดักเตอร์” หรือชิป ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
บลูมเบิร์กรายงานว่า แอปเปิ้ลคาดว่าจะผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ 90 ล้านหน่วยภายในสิ้นปีนี้ รายงานระบุว่า แอปเปิ้ลได้แจ้งกับโรงงานผลิตสมาร์ทโฟนว่า จำนวนการผลิตไอโฟน 13 จะต้องลดลงเนื่องจากบริษัทผู้ผลิตชิปเพื่อป้อนให้กับแอปเปิ้ล ซึ่งรวมถึงบรอดคอม อิงค์ และ เท็กซัส อินสตรูเมนท์ส ประสบปัญหาในการจัดส่งชิ้นส่วนสำคัญในการประมวลผลข้อมูลมาใช้ในการผลิต เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แอปเปิ้ล คาดการณ์ว่า การขยายตัวของรายได้จะชะลอตัวลงและว่า การขาดแคลนชิป ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญ เริ่มส่งผลกระทบความสามารถในการจำหน่วยเครื่องคอมพิวเตอร์แม็กและไอแพด และจะส่งผลกับการผลิตไอโฟนด้วย วิกฤติการณ์ขาดแคลนชิปส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่ ยานยนต์ไปยังสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายแห่งระงับการผลิตรถยนต์เป็นการชั่วคราว รายงานระบุว่า แอปเปิ้ลมีอำนาจในการซื้อมหาศาลและมีข้อตกลงระยะยาวกับบริษัทผู้จำหน่ายชิป ทำให้แอปเปิ้ลสามารถจะฟันฝ่าปัญหาขาดแคลนชิปได้ดีกว่าบริษัทอื่น ๆ อีกหลายแห่ง ทำให้นักวิเคราะห์บบางคนคาดการณ์ว่า ไอโฟน 13 ที่ออกจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมจะมียอดจำหน่ายดีเนื่องจากลูกค้าต้องการจะอัพเกรดสมาร์โฟนให้รองรับเครือข่าย 5 จี.-สำนักข่าวไทย