เม็กซิโกซิตี 3 ก.พ.- เม็กซิโกที่เสี่ยงถูกกระทบหนักจากนโยบายปกป้องทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังหาทางขยายความสัมพันธ์ทางการค้ากับยุโรปและเอเชีย แต่การหาตลาดใหม่แทนที่สหรัฐเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก
เฉพาะวันพุธที่ผ่านมาเพียงวันเดียวเม็กซิโกได้เคลื่อนไหวใหญ่หลายอย่างพร้อมกัน มีทั้งการตกลงกับสหภาพยุโรป (อียู) ว่าจะเร่งเจรจาปรับปรุงข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างกัน ประกาศเจรจาเอฟทีเอกับอังกฤษทันทีที่ออกจากอียู เปิดการหารือกับภาคเอกชนเพื่อเตรียมยุทธศาสตร์การเจรจากับสหรัฐและแคนาดาเรื่องเอฟทีเออเมริกาเหนือ (นาฟตา) ประกาศโครงการร่วมลงทุนระหว่างบริษัทรถยนต์เม็กซิโกกับจีนผลิตรถเอสยูวีในเม็กซิโกเพื่อขายในเม็กซิโกและส่งออกไปต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม สำหรับเม็กซิโกแล้วยุโรปและจีนยังคงเป็นคู่ค้าที่เล็กกว่าสหรัฐ มูลค่าการค้าทวิภาคีปี 2558 กับอียูอยู่ที่ 57,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2 ล้านล้านบาท) กับจีนอยู่ที่ 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.63 ล้านล้านบาท) โดยที่เม็กซิโกเป็นฝ่ายขาดดุลการค้าให้จีน นำเข้ามากกว่าส่งออกถึง 14 เท่า ขณะที่กับสหรัฐอยู่ที่ 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17.55 ล้านล้านบาท) ต่อปี หรือเกือบ 4 เท่าของการค้ากับอียูและจีนรวมกัน สินค้าส่งออกของเม็กซิโกร้อยละ 80 มีตลาดที่สหรัฐ และส่วนใหญ่นำเข้าชิ้นส่วนมาจากสหรัฐ ทำให้อุตสาหกรรมของสองประเทศมีความเกี่ยวพันกันจนแยกไม่ออก.-สำนักข่าวไทย