โรม 10 ต.ค.- คนจำนวนมากรวมทั้งสมาชิกกลุ่มขวาจัดประท้วงการที่รัฐบาลอิตาลีขยายมาตรการบังคับใช้บัตรผ่านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กับสถานที่ทำงานทุกแห่ง
การประท้วงเกิดขึ้นในกรุงโรม เมืองมิลาน และเมืองเชเซนาเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ผู้ประท้วงในกรุงโรมบางส่วนปะทะกับตำรวจเพราะพยายามแยกขบวนไปยังอาคารรัฐสภา จึงถูกสกัดด้วยน้ำแรงดันสูงและแก๊สน้ำตา มีคนถูกจับกุมจำนวนหนึ่ง ผู้ประท้วงไม่พอใจที่รัฐบาลประกาศเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนว่า จะขยายมาตรการบังคับใช้บัตรผ่านโควิดกับสถานที่ทำงานทุกแห่งตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมเป็นต้นไป พนักงานที่ไม่ปฏิบัติตามจะถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง มาตรการนี้บังคับใช้กับบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนในอิตาลีอยู่แล้ว และบังคับใช้ประชาชนทั่วไปที่ต้องการเข้าพิพิธภัณฑ์ สถานที่แข่งกีฬา และร้านอาหารตั้งแต่เดือนสิงหาคม เป็นการแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน หลักฐานว่าหายป่วยจากโควิด หรือผลการตรวจหาเชื้อเป็นบวก
สตรีวัยเกษียณประณามรัฐว่า ก่ออาชญากรรมและกรรโชกอย่างขี้ขลาดเพราะการไม่บังคับฉีดวัคซีน แต่บังคับให้คนทำงานทุกคนต้องมีบัตรผ่านโควิด เท่ากับลอยตัวจากความรับผิดชอบ หากมีผู้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากวัคซีน สามีภรรยาที่เป็นพยาบาลทั้งคู่เผยว่า มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันและภูมิแพ้จึงฉีดวัคซีนไม่ได้ แต่ถูกพักงานโดยไม่ได้ค่าจ้างตั้งแต่ 2 เดือนก่อน สถิติของรัฐบาลอิตาลีระบุว่า คนวัย 12 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเกือบร้อยละ 80 อิตาลีเป็นประเทศแรกในยุโรปที่พบการระบาด ยอดติดเชื้อสะสมเกือบ 4 ล้าน 7 แสนคน เสียชีวิตกว่า 131,200 คน.-สำนักข่าวไทย