ลอนดอน 16 พ.ย. – รายงานระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการก่อการร้ายในกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) พุ่งสูงขึ้นร้อยละ 650 เมื่อปีที่แล้ว แม้ผู้เสียชีวิตทั่วโลกมีจำนวนลดลง
สถาบันเศรษฐกิจและสันติภาพเผยดัชนีการก่อการร้ายโลก (จีทีไอ) พบว่า จำนวนเหยื่อที่เสียชีวิตจากการก่อการร้ายทั่วโลกปี 2558 ลดลงร้อยละ 10 เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี อยู่ที่ 29,376 คน โดยปฏิบัติการทางทหารต่อต้านกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอเอสในอิรักและกลุ่มโบโกฮารามในไนจีเรียช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงถึง 1 ใน 3 อย่างไรก็ตาม กลุ่มก่อการร้ายได้ขยายพื้นที่การโจมตีไปยังรัฐและภูมิภาคใกล้เคียง ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศสมาชิกโออีซีดีพุ่งสูงขึ้น โดย 21 ประเทศจากทั้งหมด 34 ประเทศประสบกับเหตุการณ์ก่อการร้ายอย่างน้อย 1 ครั้ง และอีกหลายประเทศ อาทิ เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี สวีเดน และตุรกี ต่างรายงานจำนวนเหยื่อที่เสียชีวิตจากการถูกกลุ่มก่อการร้ายโจมตีมากที่สุดใน 1 ปีนับแต่ปี 2543 ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตจากการก่อการร้ายในกลุ่มประเทศโออีซีดีส่วนใหญ่อยู่ที่ตุรกีและฝรั่งเศสที่ถูกกลุ่มไอเอสก่อเหตุกราดยิงและระเบิดฆ่าตัวตายตามสถานบันเทิงและร้านอาหารหลายแห่งในกรุงปารีสเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 130 คน
ดัชนีจีทีไอระบุ 5 อันดับประเทศที่มีเหยื่อเสียชีวิตจากการก่อการร้ายสูงที่สุดได้แก่ อิหร่าน อัฟกานิสถาน ไนจีเรีย ปากีสถาน และซีเรีย ซึ่งมีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมกันคิดเป็นร้อยละ 72 ของทั้งหมด ส่วนฝรั่งเศสอยู่ในอันดับที่ 29 ตามมาด้วยรัสเซียอันดับที่ 30 สหราชอาณาจักรอันดับที่ 34 และสหรัฐอันดับที่ 36 นอกจากนี้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการก่อการร้ายมีมูลค่าถึง 89,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.18 ล้านล้านบาท) โดยอิรักได้รับความเสียหายสูงที่สุดคิดเป็นร้อยละ 17 ของผลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี.-สำนักข่าวไทย