กรุงเทพฯ 5 ต.ค.- สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยจัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและเกาหลีในโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงานวันชาติเกาหลีในรูปแบบออนไลน์
ฯพณฯ นายอี อุก-ฮ็อน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ประธานจัดงานฉลองเนื่องในวันสถาปนาสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งถือเป็นวันชาติ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เกาหลีและไทยได้ผนึกกำลังร่วมมือกันในด้านต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพ เศรษฐกิจ การศึกษา และวัฒนธรรม ทำให้ทั้ง 2 ประเทศสามารถเอาชนะโควิด-19 ไปด้วยกัน และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ดียิ่งขึ้น ด้าน ดร.วัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวแสดงความยินดีที่ทั้งสองประเทศรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิด และจะแบ่งปันความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนด้วยการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
งานฉลองวันชาติของสาธารณรัฐเกาหลีประจำปีนี้ จัดในรูปแบบออนไลน์ ถ่ายทอดผ่านเพจ Facebook ของศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี (http://facebook.com/koreanculturalcenterTH ) เพื่อป้องกันการรวมกลุ่มกันในสถานการณ์โควิด-19 และเพื่อให้คนไทยได้ร่วมเฉลิมฉลองกันได้ นอกจากกิจกรรมการมอบอาหารเกาหลีแก่ผู้ยากไร้ในกรุงเทพฯ แล้ว ยังมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมของไทยและเกาหลีด้วย เช่น ‘ระบำกฤษดาภินิหาร’ โดยนักแสดงจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ การแสดง ‘ซัมโด-ซามุลโนรี’ ของนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติเกาหลีในประเทศไทย ซึ่งเป็นการแสดงดนตรีเคาะจังหวะแบบดั้งเดิมของเกาหลีโดยใช้เครื่องดนตรี 4 ชิ้น และทีมเทควันโดพุมเซ่ชาติไทยร่วมสาธิตเทควันโดด้วยเพลงต่างๆ รวมถึงเพลงของ Blackpink
ไฮไลท์ของงานคือการฉายภาพเชิงสร้างสรรค์บนตัวอาคารที่ด้านหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานครทั้งอาคาร การแสดงแสงสีบรรยายถึงสิ่งต่างๆ เช่น ดอกไม้ประจำชาติและธงประจำชาติของทั้งสองประเทศ เสือและหมีซึ่งเป็นสัตว์ประจำชาติของเกาหลี และช้างซึ่งเป็นสัตว์ประจำชาติของประเทศไทย นอกจากนี้ มีหลายฉากแสดงถึงที่ทั้งสองประเทศร่วมมือกันในด้านต่างๆ ได้ฉายภาพบนอาคาร และส่งข้อความว่า ‘ร่วมกันเอาชนะโควิด-19’ และ ‘รวมใจไปด้วยกัน’ ด้วยภาษาไทยและภาษาเกาหลี
ในช่วงท้ายของงาน โค้ชเช หรือ ชเว ยอง ซอก โค้ชเทควันโดทีมชาติ และ ชิน ยอง กุน โค้ชเทควันโดคนพิการทีมชาติ ขึ้นเวที พร้อมกับขวัญสุดา พวงกิจจา นักกีฬาเหรียญทองแดงพาราลิมปิกเกมส์ โตเกียว โชว์ชกกระดานไม้ที่ชื่อว่า ‘โควิด-19’ จากนั้นผู้เข้าร่วมทุกคนทำกิจกรรมภาษามือเพื่อความหวังในการเอาชนะโควิด-19 ไปด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย