วอชิงตัน 2 ก.ย. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าววานนี้ว่า คณะที่ปรึกษาระดับสูงด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ จะเชิญเจ้าหน้าที่จาก 30 ประเทศทั่วโลกมาหารือกันในเดือนนี้ เกี่ยวกับแผนการต่อสู้กับภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ของแรนซั่มแวร์ หรือ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ และอาชญากรรมทางไซเบอร์แบบอื่น ๆ
นายไบเดน กล่าวในแถลงการณ์ว่า การประชุมที่จะจัดแบบออนไลน์จะมีเจ้าภาพคือสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว และจะมุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงการทำงานร่วมกันในการบังคับใช้กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นต่าง ๆ เช่น การใช้เงินดิจิทัลอย่างผิดกฎหมาย รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน ยกระดับการรับมือกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางไซเบอร์เป็นระดับสูงสุดหลังจากถูกโจมตีทางไซเบอร์หลายครั้งในปีนี้และส่งผลต่อเสถียรภาพทางด้านพลังงานและอาหารของสหรัฐ ตัวอย่างเช่น เจเอสบี เอสเอ ผู้ผลิตเนื้อ ต้องจ่ายเงิน 11 ล้านดอลลาร์ เป็นค่าไถ่ให้คนร้ายหยุดการโจมตีระบบที่ทำให้ต้องระงับการผลิตและเชื่อว่า คนร้ายมีต้นตอมาจากแก๊งอาชญากรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย ส่วนโคโลเนียล ไปป์ไลน์ ต้องจ่ายเงินให้แก๊งแฮกเกอร์ที่เชื่อว่ามีฐานอยู่ในยุโรปตะวันออกเป็นเงินเกือบ 5 ล้านดอลลาร์ ทั้งสองบริษัทจ่ายเงินค่าไถ่เป็นเงินบิตคอยน์ ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ประเทศไหนบ้างจะเข้าร่วมในการประชุมและการประชุมจะจัดขึ้นในวันที่เท่าไหร่ รัฐบาลนายไบเดน คาดหวังว่า การจัดตั้งกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการนี้ ที่เรียกว่า ความคิดริเริ่มในการต่อต้านแรนซั่มแวร์ จะช่วยผลักดันทางการทูต ซึ่งรวมถึงการเจรจาโดยตรงกับรัสเซียและกลุ่มสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโตและกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ จี 7.-สำนักข่าวไทย