พนมเปญ 28 ก.ย. – กัมพูชาประกาศเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำรายเดือนสำหรับแรงงานในโรงงานสิ่งทอและรองเท้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศอีกเดือนละ 2 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 67 บาท เป็น 194 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 6,540 บาท ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคมปีหน้า แต่ตัวเลขนี้ยังต่ำกว่าที่บรรดาสหภาพแรงานเรียกร้องให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำอีกเดือนละ 12 ดอลลาร์ หรือ ประมาณ 404 บาท
ประธานกลุ่มสหภาพแรงงาน คอลเลคทีฟ ยูเนียน มูฟเมนท์ ออฟ เวิร์คเกอร์ส (Collective Union Movement of Workers) กล่าวว่า อัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่กระทรวงแรงงานประกาศมานั้น ยังไม่เพียงพอกับความเป็นอยู่ของผู้ใช้แรงงาน เขาขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายนายจ้างและรัฐบาล ให้ช่วยพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการเพิ่มอัตราค่าแรงให้กับแรงงานอีกหน่อย อย่างไรก็ตาม รองเลขาธิการของสมาคมผู้ผลิตสิ่งทอกัมพูชา กล่าวว่า การเพิ่มค่าแรงดังกล่าวจะส้างปัญหาในเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย เขากล่าวว่า การเพิ่มเงินอีก 2 ดอลลาร์ จะเป็นผลลบกับอุตสาหกรรม เขากล่าวด้วยว่า ขณะนี้นายจ้างจะต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นในเรื่องเงินเบี้ยเลี้ยง เงินด้านดูแลสุขภาพและสถานที่ทำงานเพื่อต่อต้านการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมถึงเงินที่ต้องใช้เดือนละ 4 ดอลลาร์ หรือ ประมาณ 135 บาทต่อหัวในการตรวจหาเชื้อไวรัส
ค่าแรงของลูกจ้างในกัมพูชาเป็นประเด็นที่รัฐบาลต้องพยายามสร้างความสมดุลในเรื่องของความสามารถในการแข่งขันของนักลงทุนและยี่ห้อของสินค้า ในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความพอใจให้กับบรรดาสหภาพแรงงานที่มีอิทธิพลที่เป็นตัวแทนของแรงงานราว 700,000 คน ซึ่งหลายปีที่ผ่านมได้ผละงานประท้วงกดดันรัฐบาล อุตสาหกรรมสิ่งทอของกัมพูชามีมูลค่า 7,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงก่อนการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเป็นนายจ้างรายใหญ่ที่สุดและสร้างรายได้สำคัญให้กับครอบครัวในชนบท โดยเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าแบนด์ดัง ๆ เข่น เอช แอนด์ เอ็ม อาดิดาส ไนกี้ และ แก๊ป.-สำนักข่าวไทย