ปักกิ่ง 25 ก.ย. – นางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ “หัวเว่ย” บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน และลูกสาวของผู้ก่อตั้งบริษัท เดินทางออกจากแคนาดาเพื่อกลับบ้านในประเทศจีนแล้วเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากบรรลุข้อตกลงกับอัยการสหรัฐเพื่อยุติคดีที่เธอถูกกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมฉ้อโกงจากการตั้งบริษัทขึ้นมาบังหน้าเพื่อลักลอบทำธุรกิจกับอิหร่าน
ภายหลังจากที่ข่าวเรื่องการบรรลุข้อตกลงเผยแพร่ออกมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง พลเมืองชาวแคนาดา 2 คนที่ถูกจีนจับกุมไม่นานหลังจากนางเมิ่งถูกควบคุมตัวเมื่อเดือนธันวาคม 2018 ก็ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำในประเทศจีนและกำลังเดินทางกลับแคนาดา จีนปฏิเสธว่า การจับกุมชาวแคนาดาทั้งสองไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดีนางเมิ่งแต่อย่างใด นางเมิ่ง ถูกจับกุมที่สนามบินในนครแวนคูเวอร์ของแคนาดาตามหมายจับของสหรัฐ และอยู่ระหว่างกระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่า ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรห้ามทำการค้ากับอิหร่านของสหรัฐ โดยเธอถูกตั้งข้อหาทุจริตด้วยการทำให้ธนาคารเอเอสบีซี เข้าใจคลาดเคลื่อนเมื่อปี 2013 เกี่ยวกับการทำธุรกิจของหัวเว่ยกับอิหร่าน ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายของสหรัฐ นางเมิ่งปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาในระหว่างการไต่สวนเพื่อส่งตัวเธอจากแคนาดาไปดำเนินคดีในสหรัฐ แหล่งข่าวใกล้ชิดกับเรื่องนี้เปิดเผยว่า นางเมิ่ง บุตรสาวของนายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตังบริษัทหัวเว่ย ออกเดินทางจากแคนาดาด้วยเครื่องบินที่มุ่งหน้าไปยังนครเสิ้นเจิ้นแล้ว ส่วนชาวแคนาดา 2 คน คือไมเคิล สปาวอร์ นักธุรกิจและนายไมเคิล คอฟริก นักการทูต ถูกควบคุมตัวจีนมานานกว่า 100 วัน และเมื่อเดือนสิงหาคม ศาลจีนตัดสินลงโทษจำคุกนายสปาวอร์ 10 ปี ในความผิดฐานจารกรรม.-สำนักข่าวไทย