แอดิเลด 9 ก.พ. – ประชาชนในรัฐเซาท์ออสเตรเลียราว 40,000 คนไม่มีไฟฟ้าใช้นานกว่าครึ่งชั่วโมง เนื่องจากระบบจ่ายไฟขัดข้อง หลังความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นท่ามกลางสภาวะอากาศร้อนจัดเมื่อช่วงค่ำวานนี้
รายงานระบุว่า นับเป็นเหตุกระแสไฟฟ้าขัดข้องครั้งล่าสุด หลังรัฐเซาท์ออสเตรเลียเพิ่งจะเผชิญเหตุการณ์ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จนส่งผลให้มีการสั่งทบทวนแผนที่จะเปลี่ยนไปพึ่งพาพลังงานหมุนเวียนในการผลิตกระแสไฟฟ้า นายเจย์ เวเธอริล มุขมนตรีรัฐเซาท์ออสเตรเลียกล่าวกับผู้สื่อข่าววันนี้ว่า เหตุการณ์ไฟฟ้าดับในครั้งนี้เป็นสิ่งที่รับไม่ได้อย่างยิ่ง และไม่ควรเกิดขึ้น ด้านนายจอช ฟรายเดนเบิร์กรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า ประชาชนในรัฐเซาท์ออสเตรเลียต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเฉลี่ยสูงกว่าพื้นที่อื่นถึงร้อยละ 40 ขณะที่ธุรกิจต่างๆล้วนได้รับผลกระทบจากกระแสไฟฟ้าดับหลายครั้ง ซึ่งล้วนแต่เป็นความผิดพลาดของพรรคแรงงาน หรือพรรคฝ่ายค้าน
รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ซึ่งพึ่งพาการผลิตกระแสไฟฟ้าส่วนใหญ่จากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม เผชิญเหตุไฟฟ้าดับบ่อยครั้งเมื่อปีที่แล้ว หลังลมกระโชกแรงทำให้ระบบส่งจ่ายกระแสไฟขัดข้อง.-สำนักข่าวไทย