โรม 17 ก.ย. – อิตาลีกำหนดให้แรงงานทุกคนต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ใบรับรองผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ หรือหลักฐานยืนยันว่าหายป่วยจากโรคโควิด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการต้านโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดที่สุดและเป็นชาติแรกในสหภาพยุโรปที่ใช้แนวทางดังกล่าว
รัฐบาลอิตาลีจะบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นความพยายามครั้งล่าสุดภายใต้รัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี ของอิตาลี เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนและควบคุมการระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 ข้อกำหนดดังกล่าวจะทำให้พนักงานหรือแรงงาน ที่ไม่มีใบรับรองด้านสุขภาพถูกสั่งพักงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน แต่จะไม่โดนไล่ออก นอกจากนี้ ประชาชนที่เพิกเฉยต่อข้อกำหนดและฝ่าฝืนไปทำงานจะถูกปรับเงินตั้งแต่ 600-1,500 ยูโร (ราว 23,000-58,000 บาท) ขณะที่เจ้าของบริษัทจะถูกปรับเงิน 400-1,000 ยูโร (ราว 15,000-39,000 บาท)
นายเรนาโต บรูเนตตา รัฐมนตรีกระทรวงการบริหารรัฐกิจของอิตาลี กล่าวว่า อิตาลีเป็นชาติแรกในทวีปยุโรปที่ใช้ข้อกำหนดนี้และจัดอยู่ในกลุ่มประเทศแรก ๆ ของโลกที่ใช้แนวทางนี้ ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลอิตาลีคาดว่าข้อกำหนดนี้จะทำให้อัตราฉีดวัคซีนในประเทศพุ่งสูงขึ้นก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม ทั้งนี้ หลายประเทศของสหภาพยุโรป หรืออียู ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ารับการฉีดวัคซีน แต่ยังไม่มีประเทศใดกำหนดให้พนักงานทุกคนต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘กรีนพาส’ (Green Pass) ทำให้อิตาลีกลายเป็นประเทศแรกในอียูที่ใช้ข้อกำหนดดังกล่าว
ขณะนี้ อิตาลีมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสะสมกว่า 4.6 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 130,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตที่สูงเป็นอันดับสองของทวีปยุโรป รองจากอังกฤษ โดยฉีดวัคซีนโดสแรกได้ร้อยละ 74 และฉีดวัคซีนครบสองโดสได้ร้อยละ 68 จากประชากรทั้งหมด 60 ล้านคน ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศส่วนใหญ่ในอียู.-สำนักข่าวไทย