จาการ์ตา 16 ก.ย. – ศาลกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียตัดสินให้ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซียและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอีกหลายคนมีความผิดฐานประมาทเลินเล่อด้านสิ่งแวดล้อมในคดีแพ่งจากความล้มเหลวในการรับมือกับปัญหามลพิษทางอากาศเรื้อรัง
คณะผู้พิพากษาของศาลแขวงกรุงจาการ์ตากลางระบุในคำพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยทั้งห้าคน ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดีวิโดโด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ขัดต่อกฎหมายอินโดนีเซีย การพิจารณาคดีดังกล่าวกำหนดให้ประธานาธิบดีต้องกำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศแวดล้อมแห่งชาติเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาต้องวางยุทธศาสตร์เพื่อควบคุมมลพิษทางอากาศ ส่วนทนายฝั่งโจทก์เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ศาลได้ตัดสินให้จำเลยมีความผิดฐานละเลยการควบคุมมลพิษทางอากาศ และรู้สึกพอใจกับคำตัดสิน อย่างไรก็ดี ศาลไม่ได้ตัดสินว่าการกระทำของจำเลยละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่มีคำสั่งให้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เช่น วิเคราะห์การปล่อยมลพิษข้ามพรมแดนและทดสอบการปล่อยมลพิษของรถยนต์รุ่นเก่าเป็นระยะ
ในขณะเดียวกัน โฆษกของประธานาธิบดีวิโดโดระบุว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินการต่อจากนี้จะขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม ขณะที่สำนักงานผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาเผยว่า กำลังทบทวนการตัดสินใจ ส่วนกระทรวงสิ่งแวดล้อมและกระทรวงมหาดไทยของอินโดนีเซียยังไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในทันที และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินดังกล่าวหรือไม่
ก่อนหน้านี้ คดีดังกล่าวได้รับการยื่นฟ้องต่อศาลในปี 2562 โดยมีจำเลยเป็นประธานาธิบดีวิโดโด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย รวมถึงผู้นำท้องถิ่นคนอื่น ๆ โจทก์ 32 คนระบุว่า คดีนี้เป็นความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะบังคับให้ทางการอินโดนีเซียจัดการปัญหามลพิษทางอากาศที่รุนแรงในกรุงจาการ์ตาและพื้นที่โดยรอบ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนกว่า 30 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย
