ฮ่องกง 16 ก.ย. – คณะผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของฮ่องกงแนะนำให้รัฐบาลฮ่องกงฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของไบออนเทคให้เด็กอายุ 12-17 ปีเพียงเข็มเดียว เนื่องจากได้รับรายงานผู้ที่มีภาวะหัวใจอักเสบที่เป็นผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนดังกล่าว
ศาสตราจารย์เหลา หยู-หลง ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการสุขภาพที่ให้คำแนะนำรัฐบาลฮ่องกงในโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เผยกับสถานีวิทยุโทรทัศน์ฮ่องกงว่า ผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนของไบออนเทคมีมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ คณะผู้เชี่ยวชาญจึงตัดสินใจว่า รัฐบาลควรฉีดวัคซีนดังกล่าวให้กลุ่มวัยรุ่นเพียงเข็มเดียวเพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการเกิดภาวะหัวใจอักเสบ ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขฮ่องกงไม่ได้เปิดเผยข้อมูลว่ามีวัยรุ่นกี่คนที่มีภาวะหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนของไบออนเทค อย่างไรก็ดี สถานีวิทยุโทรทัศน์ฮ่องกงรายงานว่า วัยรุ่นฮ่องกงกว่า 30 คนมีภาวะหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนดังกล่าวนับตั้งแต่รัฐบาลเริ่มโครงการฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปในเดือนมิถุนายน ขณะนี้ ฮ่องกงฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 12-17 ปีได้มากกว่าร้อยละ 50 แต่ไม่ได้เปิดเผยจำนวนโดสที่ฉีดไปทั้งหมด
ฮ่องกงใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด 2 ขนานในโครงการฉีดวัคซีน ได้แก่ วัคซีนของซิโนแวกและวัคซีนของไบออนเทค โดยที่กลุ่มวัยรุ่นจะได้ฉีดวัคซีนของไบออนเทคเท่านั้น ขณะนี้ ฮ่องกงฉีดวัคซีนโดสแรกให้ประชาชนร้อยละ 65 จากประชากรทั้งหมด 7.5 ล้านคน แต่กลับฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้สูงวัยได้น้อย เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน ทั้งนี้ ฮ่องกงถือเป็นประเทศที่ควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี โดยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 12,100 คน และมีผู้เสียชีวิตเพียง 213 คน
ก่อนหน้านี้ หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ สหภาพยุโรป และองค์การนามัยโลก ระบุว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ ( mRNA) ของไฟเซอร์/ไบออนเทคและโมเดอร์นามีความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจอักเสบชนิดหายากหลังฉีดวัคซีนดังกล่าว แต่วัคซีนมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงทางสุขภาพ ขณะที่ไฟเซอร์ยอมรับวัคซีนที่พัฒนาขึ้นอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจอักเสบชนิดหายากหลังฉีดวัคซีน แต่ผลข้างเคียงดังกล่าวเกิดขึ้นได้ยากมาก.-สำนักข่าวไทย