วอชิงตัน 14 ก.ย. – คณะนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำที่รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ หรือเอฟดีเอ และเจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกระบุในวารสารการแพทย์เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันยังไม่จำเป็นต่อประชาชนทั่วไป
คณะนักวิทยาศาสตร์ระบุในวารสารการแพทย์ ‘แลนเซต’ ว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับความจำเป็นของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือระยะเวลาในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ควรขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ข้อมูลทางคลินิกหรือข้อมูลด้านระบาดวิทยาอย่างรอบคอบ ขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดเกี่ยวกับความจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ประชาชนทั่วไป เนื่องจากประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโรคโควิดยังคงอยู่ในระดับสูง ดังนั้น วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจช่วยรักษาชีวิตผู้คนได้เป็นจำนวนมาก หากนำไปฉีดให้แก่ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
ทั้งนี้ คณะผู้เขียนบทความดังกล่าวประกอบด้วยมาริยง กรูเบอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและตรวจสอบวัคซีน และฟิล ครอส ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายเดียวกันของเอฟดีเอ โดยที่ทั้งสองคนได้วางแผนลาออกจากเอฟดีเอในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ดี ทั้งสองคนระบุว่า ประชาชนบางคน เช่น ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจได้รับประโยชน์จากการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น นอกจากนี้ บทความดังกล่าวยังมีผู้เขียนรายอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงนักวิทยาศาสตร์ระดับสูงขององค์การอนามัยโลก อย่างไรก็ดี บทความดังกล่าวถือว่าขัดแย้งกับแผนของรัฐบาลสหรัฐที่จะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสเร็วสุดภายในสัปดาห์หน้า โดยขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพของสหรัฐในวันที่ 17 กันยายนนี้.-สำนักข่าวไทย