ซิดนีย์ 13 ก.ย. – รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียระบุว่า อัตราฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เริ่มชะลอตัวหลังฉีดวัคซีนโดสแรกให้ประชาชนเกือบถึงร้อยละ 80 และเรียกร้องให้ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว รวมถึงประกาศผ่อนคลายมาตรการบางส่วนให้แก่ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสตั้งแต่วันนี้
นางแกลดีส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก กล่าวเตือนว่า ประชาชนมีสิทธิเลือกที่จะไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด แต่อย่าคาดหวังว่าจะได้รับสิทธิทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่นเดียวกับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว หลังรัฐนิวเซาท์เวลส์ฉีดวัคซีนโดสแรกได้เกือบร้อยละ 80 ของประชากรทั้งหมด 8 ล้านคน ขณะนี้รัฐนิวเซาท์เวลส์ยังคงมีอัตราฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เริ่มมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย ทางการจึงขอความร่วมมือให้ทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว นอกจากนี้ ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการบางส่วนให้แก่ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป โดยอนุญาตให้ประชาชนรวมตัวนอกบ้านได้ไม่เกิน 5 คน ขณะที่สมาชิกครอบครัวเดียวกันในพื้นที่ 12 แห่งที่มีการระบาดรุนแรงในนครซิดนีย์สามารถรวมตัวนอกบ้านได้สูงสุด 2 ชั่วโมง
รัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,257 คน ขณะที่รัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 473 คน ทำสถิติยอดผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดของรัฐในปีนี้ ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 75,300 คน และผู้เสียชีวิตราว 1,100 คน
ในขณะเดียวกัน พลโทจอห์น ฟรีเวน หัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจด้านวัคซีนโควิดของออสเตรเลีย เผยวันนี้ว่า ออสเตรเลียจะมีวัคซีนมากเพียงพอที่จะให้ผู้เข้าเกณฑ์ได้ฉีดครบสองโดสตั้งแต่กลางกลางเดือนตุลาคม และได้ขยายการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมไปถึงกลุ่มเด็กอายุ 12-15 ปี ราว 1 ล้านคนตั้งแต่วันนี้. -สำนักข่าวไทย