แคนเบอร์รา 11 ก.ย. – รัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของออสเตรเลียกล่าววันนี้ว่า อาจจะสั่งล็อกดาวน์แบบฉับพลันหลังจากพบการระบาดแบบกลุ่มก้อนของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในขณะที่ออสเตรเลียรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศรายวันสูงทำสถิติใหม่อีกครั้ง
รัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งมีประชากรมากกว่า 5 ล้านคน กล่าวว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมง โดยเป็นครอบครัวหนึ่งมีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสเป็นบวก เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ในช่วงเวลา 2-3 วันข้างหน้าถือว่าเป็นช่วงสำคัญก่อนจะตัดสินใจว่าจำเป็นต้องประกาศล็อกดาวน์หรือไม่ ครอบครัวนี้อยู่ในเมืองบริสเบน เมืองเอกของรัฐควีนส์แลนด์ ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า หากมีการประกาศล็อกดาวน์ จะบังคับใช้เฉพาะบางส่วนของรัฐเหมือนอย่างในอดีตหรือไม่ หากล็อกดาวน์ในรัฐควีนส์แลนด์จริง ก็จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจออสเตรเลีย ซึ่งประสบภาวะถดถอยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบหลายปี ในวันนี้ ออสเตรเลียรายงานพบผู้ติดเชื้อรายวัน 2,077 ราย แซงหน้าตัวเลขเมื่อวานนี้ที่ 1,903 ราย ซึ่งเป็นสถิติใหม่ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งขอให้ประชาชนอยู่บ้านมานานเกือบ 3 เดือนแล้ว พบผู้ติดเชื้อ 1,599 ราย เจ้าหน้าที่เตือนประชาชนให้ยังคงรักษาระยะห่าง แต่อากาศร้อนจัดในนครซิดนีย์ ทำให้ประชาชนจำนวนมากออกไปที่ชายหาดกัน ตำรวจและทหารออกลาดตระเวณตามถนนในนครซิดนีย์ เพื่อปรับผู้ที่ละเมิดมาตรการด้านสาธารณสุข เช่น ไม่สวมหน้ากากอนามัย และคนหนึ่งที่ถูกปรับคืออดีตนายกรัฐมนตรีโทนี แอบบ็อต ที่กล่าวยืนยันวันนี้ว่า เขาโดนปรับ 500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ ประมาณ 12,000 บาท หลังถูกถ่ายภาพว่าไม่สวมหน้ากากอนามัย.-สำนักข่าวไทย