“ไบเดน” จะเปิดเผยแผน 6 ข้อรับมือโควิด-19

วอชิงตัน 9 ก.ย. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จะกล่าวปราศรัยชี้แจงเค้าโครงแนวทางใหม่ในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในสหรัฐ ซึ่งยังคงระบาดแม้จะมีวัคซีนสำหรับป้องกันการติดเชื้อไวรัส


เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของสหรัฐ กล่าวว่า ในคำปราศรัยของนายไบเดน เขาจะมุ่งเน้นใน 6 เรื่อง รวมถึงแผนการใหม่ในการดึงให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนให้มากขึ้น การเพิ่มการป้องกันการติดเชื้อไวรัสของกลุ่มคนที่ได้รับวัคซีนไปเรียบร้อยแล้ว และการทำให้โรงเรียนสามารถเปิดการเรียนการสอนได้ต่อเนี่อง เจ้าหน้าที่กล่าวด้วยว่า คำปราศรัยของนายไบเดน จะครอบคลุมเรื่องการเพิ่มการตรวจหาเชื้อไวรัสและการสวมหน้ากากอนามัย การปกป้องให้เศรษฐกิจสามารถกลับมาฟื้นตัวได้จากความเสียหายและความถดถอยที่เกิดจากการระบาดของเชื้อไวรัส และการปรับปรุงเรื่องการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ทางการทราบว่า การฉีดวัคซีนให้ได้เยอะ ๆ จะช่วยหยุดยั้งการระบาดได้ และจะทำให้ควบคุมการระบาดได้ และประชาชนจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ เธอกล่าวด้วยว่า รัฐบาลยังมีงานต้องทำอีกมากและขณะนี้ยังต้องทำสงครามกับเชื้อไวรัสต่อไป การที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นทำให้เกิดความกังวลในขณะที่เด็ก ๆ กำลังจะต้องกลับไปเข้าเรียนอีกครั้ง นอกจากนั้น ยังทำให้นักลงทุนกังวลและกระทบกับแผนของบริษัทที่จะให้พนักงานกลับไปทำงานในสถานที่ทำงาน ชณะนี้ ชาวอเมริกันราวร้อยละ 53 ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว แต่อีกจำนวนมากที่ยังไม่แน่ใจในวัคซีน ในขณะที่ทำเนียบขาวได้ประกาศแผนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันไปแล้ว ซึ่งเป็นการเมินคำรอร้องขององค์การอนามัยโลก ที่ต้องการให้ประเทศร่ำรวยระงับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ไว้ก่อน เพื่อให้ประชาชนประเทศยากจนได้มีวัคซีนป้องกันโควิด-19 นายไบเดน มีกำหนดจะกล่าวปราศรัยจากทำเนียบขาวในเวลา 17.00 น. ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน หรือ ตรงกับ 04.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย