ซิดนีย์ 9 ก.ย. – รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียเตรียมอนุญาตให้คาเฟ่ ร้านอาหาร และผับในนครซิดนีย์กลับมาเปิดบริการได้อีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของเดือนตุลาคม หากบรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบสองโดสให้แก่ประชาชนร้อยละ 70
รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก ระบุวันนี้ว่า หากบรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบสองโดสให้แก่ประชาชนร้อยละ 70 ตามที่คาดการณ์ไว้ในช่วงกลางเดือนตุลาคม ก็จะอนุญาตให้บาร์ ร้านอาหาร และสถานที่ออกกำลังกายทั่วนครซิดนีย์ที่มีประชากร 5 ล้านคนกลับมาเปิดบริการได้อีกครั้ง รวมถึงเตรียมผ่อนคลายคำสั่งอยู่แต่ในบ้านให้แก่ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสเช่นกัน อย่างไรก็ดี แผนการดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 1,405 คน ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดและลดลงจากวันก่อนที่มี 1,480 คน และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย ขณะนี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบสองโดสให้แก่ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปร้อยละ 43 ซึ่งสูงกว่าอัตราฉีดวัคซีนทั่วประเทศที่มีร้อยละ 40
ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย กล่าววันนี้ว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์พยายามกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับแผนระดับชาติสี่ขั้นตอนของรัฐบาลออสเตรเลียในเดือนกรกฎาคมที่ให้คำมั่นว่าแต่ละรัฐจะมีเสรีภาพมากขึ้นหากมีอัตราฉีดวัคซีนร้อยละ 70-80 พร้อมเตือนว่า รัฐต่าง ๆ อาจพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นหลังผ่อนคลายมาตรการ และบรรดาผู้นำรัฐต้องควบคุมสถานการณ์ระบาดให้ได้
นอกจากนี้ รัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก รายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 324 คน เพิ่มขึ้นจากวันก่อนที่มี 221 คน ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 68,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ.-สำนักข่าวไทย