ญี่ปุ่นเล็งขยายเวลามาตรการคุมเข้มในกรุงโตเกียว

โตเกียว 9 ก.ย. – รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าววันนี้ว่า มีแผนการที่จะขยายเวลาการใช้มาตรการเช้มงวดภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในกรุงโตเกียวและจังหวันอื่น ๆ เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และป้องกันมิให้โรงพยาบาลมีคนไข้ล้น โดยระบุว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะเอาการ์ดป้องกันไวรัสลง


นายยาสุโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีเศรษฐกิจที่ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีมดูแลการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 กล่าวว่า รัฐบาลจะขอให้มีการขยายเวลามาตรการคุมโควิด—19 ออกไปขนถึงวันที่ 30 กันยายน ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ในกรุงโตเกียวและเมืองโอซากา โดยแผนการนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะผู้เชี่ยวชาญก่อน นายนิชิมูระกล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเสริมกำลังให้กับระบบทางการแพทย์ให้แข็งแรงขึ้นด้วยการลดจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส เขากล่าวด้วยว่า สถานการณ์โควิด-19 โดยรวมทั่วประเทศมีแนวโน้มพัฒนาในทางที่ดีขึ้น ซึ่งหมายความว่า จะมี 2 จังหวัด จากจำนวน 21 จังหวัด จะไม่ต้องอยู่ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและจะได้รับการผ่อนคลายข้อจำกัดต่าง ๆ การประกาศการติดสินใจอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันนี้และนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ จะเป็นผู้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์รายวันนิกเคอิ รายงานวันนี้ว่า รัฐบาลกำลังเตรียมการผ่อนคลายข้อจำกัดในการเดินทางเข้าประเทศ ด้วยการลดระยะเวลาการกักตัวของผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศจาก 14 วัน เหลือ 10 วัน หากได้ฉีดวัคซีนที่รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความเห็นชอบแล้ว นายโนริฮิสะ ทามูระ รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่า เขาเชื่อว่า มาตรการต่าง ๆ เริ่มเห็นผลแล้ว แต่ยังเร็วเกินไปที่จะลดการ์ดลง


ญี่ปุ่นกำลังพยายามอย่างหนักในการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 5 และเมื่อเดือนที่แล้วก็ขยายเวลามาตรการคุมเข้มที่ใช้มายาวนานออกไปจนถึงวันที่ 12 กันยายน เพื่อให้ครอบคุมประชากรร้อยละ 80 ของประเทศ อย่างไรก็ตามตัวเลขผู้ป่วยรุนแรงไม่ลดลงและระบบสาธารณสุขคงอยู่ในภาวะตึงตัวทั้งในกรุงโตเกียวและพื้นที่ใกล้เคียง จนไม่สามารถจะผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ในพื้นที่นี้ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

วัดอรุณฯ เนืองแน่น นักท่องเที่ยวแห่ร่วมงานลอยกระทง

นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแน่นวัดอรุณฯ ร่วมงานประเพณีลอยกระทง 2567 “ลอยกระทง วิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” มีน้องหมูเด้ง Thai Cuteness นำนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยสืบสานคุณค่าวัฒนธรรม นางสาวไทย(ดินสอสี) ชวนรำวงลอยกระทง 6 ภาษา ผลักดันเทศกาลไทยสู่ World Event หมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน

ข่าวแนะนำ

ซูเปอร์มูน

ทั่วโลกแห่ชมซูเปอร์มูนครั้งสุดท้ายของปีนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนทั่วโลกมีโอกาสได้ชมดวงจันทร์ที่เรียกว่าซูเปอร์มูนซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้

หารือสีจิ้นผิง

นายกฯ หารือ “สี จิ้นผิง” ขยายความร่วมมือการค้า-ลงทุน

นายกรัฐมนตรี หารือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น พร้อมแลกเปลี่ยนการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนสองประเทศ พร้อมอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากปักกิ่งประดิษฐานท้องสนามหลวง