วอชิงตัน 6 ก.ย. – ผู้จัดการอพยพที่ท่าอากาศยานนานาชาติมาซาร์ อี ชารีฟ ทางตอนเหนือของอัฟกานิสถานระบุว่า มีผู้คนราว 1,000 คน ซึ่งรวมถึงชาวอเมริกัน ตกค้างอยู่ในประเทศมาเป็นเวลาหลายวันเพื่อรอคำสั่งอนุมัติให้เที่ยวบินเช่าเหมาลำออกเดินทาง พร้อมกล่าวโทษกระทรวงต่างประเทศสหรัฐว่าเป็นต้นเหตุของความล่าช้า
ผู้จัดการอพยพไม่เผยนามกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐไม่ได้แจ้งให้กลุ่มตาลีบันทราบถึงการอนุมัติเที่ยวบินจากท่าอากาศยานมาซาร์ อี ชารีฟ หรือไม่ได้รับรองสนามบินที่จะลงจอด ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า สหรัฐต้องรับผิดชอบจากการทำให้ชีวิตผู้คนเหล่านี้ตกอยู่ในอันตราย ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐไม่เผยนามได้กล่าวแย้งว่า รัฐบาลสหรัฐยังไม่ได้รับการยืนยันว่ามีชาวอเมริกันพยายามเดินทางออกจากสนามบินดังกล่าว ส่วนโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐไม่ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาใด ๆ แต่เน้นย้ำว่าสหรัฐไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำการภาคพื้นที่ท่าอากาศยานมาซาร์ อี ชารีฟ จึงไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดพื้นฐานเกี่ยวกับเที่ยวบินเช่าเหมาลำดังกล่าวเรื่องจำนวนพลเมืองสหรัฐและคนอื่น ๆ บนเที่ยวบิน ความถูกต้องของบัญชีรายชื่อผู้โดยสาร เส้นทางลงจอด และปัญหาด้านอื่น ๆ แต่สหรัฐจะขอให้กลุ่มตาลีบันยึดคำมั่นที่เคยให้ไว้ว่า จะอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศได้อย่างเสรี
ก่อนหน้านี้ นายไมค์ แมคคอล สมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกันที่อยู่ในคณะกรรมการกำกับดูแลด้านต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐเผยกับรายการข่าวฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์ ว่า มีเครื่องบิน 6 ลำตกค้างพร้อมกับชาวอเมริกันและล่ามชาวอัฟกันที่ท่าอากาศยานมาซาร์ อี ชารีฟ เนื่องจากกลุ่มตาลีบันไม่อนุญาตให้ออกเดินทาง ทั้งยังกล่าวหาว่า กลุ่มตาลีบันกำลังใช้ผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวเป็นตัวประกันสำหรับข้อเรียกร้องบางอย่าง แต่แหล่งข่าวหลายแห่งแย้งข้อกล่าวหานี้. -สำนักข่าวไทย