ซิดนีย์ 6 ก.ย.- นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังออสเตรเลียชี้ว่า ออสเตรเลียต้องสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจเพื่อลดการพึ่งพาจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศ ในระหว่างที่เตือนภาคธุรกิจให้เตรียมรับมือกับความตึงเครียดกับจีนครั้งใหม่
นายฟรายเดนเบิร์กล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงแคนเบอร์ราในวันนี้ว่า เป็นที่ทราบกันอย่างเปิดเผยว่า ช่วงไม่นานมานี้จีนได้หาทางเล่นงานเศรษฐกิจออสเตรเลีย การแข่งขันทางยุทธศาสตร์ที่เข้มข้นขึ้น คือความเป็นจริงใหม่ที่ออสเตรเลียกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ และน่าจะต่อเนื่องในอนาคต ภาคธุรกิจควรมองหาตลาดใหม่ ๆ ที่เปิดกว้าง อันเป็นผลจากการที่ออสเตรเลียทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีหรือเอฟทีเอกับประเทศอื่น ๆ
รอยเตอร์ระบุว่า ความสัมพันธ์ของออสเตรเลียกับจีนเสื่อมทรามลง ตั้งแต่ออสเตรเลียห้ามใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยเทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติของจีน ในการวางเครือข่ายบรอดแบนด์ 5 จีเมื่อปี 2561 และยิ่งเย็นชาต่อกันลงอีกเมื่อออสเตรเลียเรียกร้องให้เปิดการสอบสวนอย่างอิสระเรื่องต้นตอของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่พบในจีนเป็นแห่งแรก ด้านจีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์จากออสเตรเลีย เช่น ข้าวบาร์เลย์ ไวน์ องุ่น
อย่างไรก็ดี แม้ความสัมพันธ์ตึงเครียด ออสเตรเลียส่งออกสินค้าไปจีนมากเป็นประวัติการณ์ถึง 19,400 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 467,330 ล้านบาท) ในช่วง 12 เดือนจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม เพิ่มขึ้นจาก 12 เดือนก่อนหน้านั้นถึงร้อยละ 72 ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกสินแร่เหล็ก ขณะที่เศรษฐกิจออสเตรเลียมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 48 ล้านล้านบาท) เสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งที่ 2 ในรอบหลายปี เพราะรัฐใหญ่ ๆ ใช้มาตรการล็อกดาวน์จำกัดโควิด-19 มาเป็นเวลานาน.-สำนักข่าวไทย