ซิดนีย์ 5 ก.ย.- ออสเตรเลียคาดหวังว่า ประชาชนจะได้ฉลองคริสต์มาสในบรรยากาศใกล้เคียงกับปกติอีกครั้งในปีนี้ เพราะทางการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพื่อยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์ แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้น
นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ซันเดย์เฮรัลด์ซัน ยอมรับว่าไม่สามารถขจัดการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาได้อย่างหมดสิ้น แต่หากฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมาย ก็จะสามารถเปิดการเดินทางระหว่างรัฐภายในประเทศได้ เพื่อให้ประชาชนฉลองคริสต์มาสกับครอบครัวอีกครั้ง
ชาวออสเตรเลียรวมกว่า 15 ล้านคน ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย และดินแดนเขตเมืองหลวง ยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ เพราะการระบาดระลอกปัจจุบันที่รุนแรงที่สุดจากไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,684 คน รัฐบาลจะใช้มาตรการล็อกดาวน์ปิดพรมแดนภายในระหว่างรัฐ จนกว่าประชากรอายุ 16 ปีขึ้นไป ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 70 และจะเริ่มเปิดพรมแดนระหว่างประเทศที่ปิดมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 หากฉีดแล้วร้อยละ 80 อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้มีคนฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเพียงร้อยละ 37 ทางการกำลังเร่งเพิ่มอัตราฉีด คาดว่าจะฉีดได้ร้อยละ 70 ภายในปลายเดือนตุลาคม หรือต้นเดือนพฤศจิกายน ออสเตรเลียมียอดติดเชื้อสะสมไม่ถึง 62,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 1,040 คน.-สำนักข่าวไทย