fbpx

อินเดียขอให้ 2 รัฐใหญ่ใช้เคอร์ฟิวสกัดยอดป่วยโควิดพุ่ง

นิวเดลี 27 ส.ค. – อินเดียขอให้รัฐเกรละและรัฐมหาราษฏระพิจารณาใช้คำสั่งห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวตอนค่ำคืน  เนื่องจากทั้งสองรัฐมียอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อยู่ในระดับสูง ในขณะที่อินเดียพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ทะลุ 40,000 คนเป็นวันที่สอง


กระทรวงมหาดไทยของอินเดียระบุในแถลงการณ์ช่วงค่ำวันพฤหัสบดีหลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกับรัฐเกรละและรัฐมหาราษฏระว่า ทั้งสองรัฐต้องพยายามควบคุมยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดให้มากขึ้น โดยการใช้มาตรการต่าง ๆ เช่น การติดตามผู้สัมผัส การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และการปฏิบัติตามข้อจำกัดอย่างเหมาะสม ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า กระทรวงฯ ได้ขอให้รัฐมหาราษฏระและรัฐเกรละพิจารณาใช้คำสั่งเคอร์ฟิวตอนกลางคืนในพื้นที่ที่พบการระบาดสูง และยืนยันว่าจะจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่มเติมให้แก่ทั้งสองรัฐ

ในขณะเดียวกัน ทางการอินเดียรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 44,658 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 32.6 ล้านคน สูงเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐ และมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 496 คน ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตกว่า 436,000 คน ทั้งนี้ รัฐเกรละ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของอินเดีย มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่คิดเป็นร้อยละ 60 ของตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และมียอดผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเกินกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมด ตามมาด้วยรัฐมหาราษฏระทางตะวันตกของอินเดียที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ร้อยละ 16


ก่อนหน้านี้ อินเดียพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 25,166 คนในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 5 เดือน แต่กลับพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 3 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะในรัฐเกรละที่เพิ่งจัดฉลองเทศกาลใหญ่ที่หลายครอบครัวมารวมตัวกัน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME