วอชิงตัน 27 ส.ค.- กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐแจ้งว่า มีผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข้ารับการรักษาตัวโรงพยาบาลมากถึง 100,000 คนเมื่อวันพฤหัสบดี มากที่สุดในรอบ 8 เดือน
ยอดผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นเพราะไวรัสสายพันธุ์เดลตากำลังทำให้ระบบสาธารณสุขในสหรัฐตึงตัว โดยมีผู้ติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในช่วงเดือนที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) แจ้งว่า สัปดาห์ที่แล้วมีผู้ติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลเฉลี่ยชั่วโมงละมากกว่า 500 คน สหรัฐเคยมีผู้ติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลสูงสุด 132,051 คนเมื่อวันที่ 6 มกราคมปีนี้ และหลังจากเริ่มฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวาง ยอดลดลงเหลือต่ำสุดที่ 13,843 คนเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน อย่างไรก็ดี ยอดผู้ติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์เดลตากลายเป็นสายพันธุ์ระบาดหลัก และแพร่อย่างรวดเร็วในกลุ่มผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน อีกทั้งยังทำให้มีผู้ติดเชื้อที่เป็นเด็กเข้าโรงพยาบาลมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งที่ได้รับการยืนยันแล้วและอยู่ระหว่างสอบสวนโรคมากกว่า 2,000 คน คิดเป็นร้อยละ 2.3 ของผู้ติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลทั้งประเทศ เนื่องจากเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ยังไม่สามารถฉีดวัคซีนได้
นพ.แอนโธนี เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาการแพทย์ของประธานาธิบดีสหรัฐคาดการณ์ในสัปดาห์นี้ว่า สหรัฐจะสามารถควบคุมโควิด-19 ได้ภายในต้นปีหน้า หากสามารถเร่งฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง ข้อมูลของซีดีซีระบุว่า ประชากรในสหรัฐได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วร้อยละ 61.-สำนักข่าวไทย