ผลวิจัยชี้วัคซีนโควิดมีประสิทธิภาพต้านสายพันธุ์เดลตาลดลง

ลอนดอน 19 ส.ค. – การวิจัยด้านสาธารณสุขของอังกฤษระบุว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาและไฟเซอร์/ไบโอเอนเทค มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาลดลงภายในเวลา 3 เดือน


ผลวิจัยของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษที่ใช้ข้อมูลการตรวจหาเชื้อโควิดแบบป้ายคอและจมูกในประชาชนกว่า 3 ล้านคนทั่วอังกฤษพบว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกาและไฟเซอร์มีประสิทธิภาพลดลงเหลือร้อยละ 61 และ 75 ตามลำดับ หลังฉีดวัคซีนเข็มสองภายในเวลา 90 วัน จากเดิมที่มีประสิทธิภาพร้อยละ 68 และ 85 โดยประสิทธิภาพที่ลดลงนั้นมีความเด่นชัดในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปมากกว่าในกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่านั้น อย่างไรก็ดี ซาราห์ วอล์คเกอร์ ศาสตราจารย์ด้านเวชสถิติและหัวหน้าผู้ตรวจสอบผลการศึกษาในครั้งนี้ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิดของแอสตราเซเนกาและไฟเซอร์ยังคงมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาได้เป็นอย่างดี แต่คงเป็นเรื่องยากที่จะรักษาประสิทธิภาพวัคซีนในระดับสูงเอาไว้ได้ดังเดิม ขณะที่โคเอน เพาเวลส์ หนึ่งในคณะผู้เขียนผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดระบุว่า การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น วัคซีนป้องกันโรคโควิดที่มีอยู่ในขณะนี้อาจมีประสิทธิภาพป้องกันอาการป่วยหนักได้ดีที่สุดและป้องกันการติดเชื้อได้ลดลงเล็กน้อย

ผลวิจัยดังกล่าวยังชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาในผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่ฉีดวัคซีนครบสองโดส เนื่องจากพบว่ามีจำนวนเชื้อไวรัสโคโรนาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับผู้ป่วยติดเชื้อที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นประสิทธิภาพที่ลดลงอย่างชัดเจนตั้งแต่ในช่วงที่เชื้อโควิดสายพันธุ์อัลฟาแพร่ระบาดรุนแรงในอังกฤษ ทั้งนี้ ผลวิจัยดังกล่าว ซึ่งยังไม่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญก่อนตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ ยังเป็นการเน้นย้ำความวิตกกังวลของนักวิทยาศาสตร์หลายรายที่ระบุว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสมีอัตราติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาสูงกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ และยังแพร่เชื้อให้แก่ผู้อื่นได้ง่ายขึ้นเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทักษิณเหยียดผิว

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน ชี้เสี่ยงทำประเทศไทยถูกนานาชาติตั้งคำถาม ขัดหลักการสิทธิมนุษยชน

ข่าวแนะนำ

รับตัว “ซิงซิง” จากเมียนมากลับฝั่งไทยแล้ว

เจ้าหน้าที่รับตัว “ซิงซิง” นักแสดงจีน จากเมียนมาข้ามมาฝั่งไทยแล้ว หลังหายตัวลึกลับจนญาติแจ้งความที่จีน พบโผล่ที่ไทยและข้ามแดนไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษในเมียนมา ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำจุดประสงค์การข้ามแดน หลังไม่พบข้อบ่งชี้ถูกบังคับ โดยเจ้าตัวจ้างแท็กซี่จากสนามบินไปชายแดน อ.แม่สอด ด้วยตนเอง

พระราชพิธีสมมงคล

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้ ทั่วประเทศ พร้อมเลื่อนประชุม ครม. สัปดาห์หน้า เป็นวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. แทน

ซิงซิงดาราจีน

นายกฯ เผยเจอ “ซิงซิง” แล้ว ตำรวจภูธร​ภาค 6 รอรับอยู่ที่แม่สอด

นายกฯ เผยเจอ “ซิงซิง” นักแสดงจีนแล้ว ตำรวจภูธร​ภาค 6 รอรับอยู่ที่แม่สอด สั่ง “ดีอี” ดูข่าวลือ ไม่ให้กระทบภาพลักษณ์ไทย หลังโซเชียล​โหมกระแสเมืองไทยน่ากลัว พร้อมประสานทูตจีนเข้มข้น หลังคนจีนเข้ามาใช้พื้นที่ไทยก่อเหตุ รับฟังข้อเสนอฝ่ายค้านจัดโซนนิ่งฟรีวีซ่าจีน