เวลลิงตัน 19 ส.ค. – การระบาดล่าสุดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของนิวซีแลนด์ ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 21 รายแล้วในวันนี้ แต่เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เชื้อไวรัสอาจจะไม่ได้อยู่ในชุมชนมานานเนื่องจากพบว่าที่มาของเชื้อไวรัสมาจากผู้ที่เดินทางกลับมาจากนครซิดนีย์ของออสเตรเลียเมื่อไม่นานมานี้
นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์และนายแอชลีย์ บลูมฟิลด์ ผู้อำนวยการด้านสาธารณสุขของนิวซีแลนด์ ร่วมกันแถลงข่าววันนี้ว่า จากการตรวจสอบจัดลำดับจีโนมแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่มีผลการตรวจไวรัสเป็นบวกที่เกิดขึ้นในขณะนี้มีความใกล้เคียงตรงกับผู้ที่เดินทางกลับมาจากนครซิดนีย์ โดยเที่ยวบินที่เดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม บุคคลรายนี้มีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวกเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมและถูกนำตัวไปกักบริเวณเพื่อดูอาการแล้ว ต่อมาชายคนนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในวันที่ 16 สิงหาคม นางอาร์เดิร์นกล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นความคืบหน้าที่มีนัยสำคัญ เนื่องจากทำให้มีความมั่นใจในระดับหนึ่งว่า เชื้อไวรัสมีที่มาจากไหนและเข้าประเทศมาเมื่อไหร่ ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่า การระบาดไม่น่าจะรุนแรง
นิวซีแลนด์ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 แต่รัฐบาลสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศ 3 วัน หลังจากพบผู้ติดเชื้อ 1 รายในเมืองออคแลนด์ เมื่อวันอังคาร นางอาร์เดิร์น กล่าวว่า หากไม่มีการล็อกดาวน์ทั่งประเทศ นิวซีแลนด์อาจจะต้องพบกับปัญหาลักษณะเดียวกับออสเตรเลียที่เผชิญกับการระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสสายพันธุ์เดลตา ทำให้ต้องล็อกดาวน์ไปครึ่งประเทศ การระบาดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แม้ตัวเลขจะไม่มาก แต่ก็ทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความกังวล เนื่องจากไม่ประสบความสำเร็จให้ประชาชนออกมาฉีดวัคซีนมากนัก คือประชาชนฉีดไปได้เพียงร้อยละ 20 ของประชากร 5 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย