ซิดนีย์ 14 ส.ค. – ออสเตรเลียจะเพิ่มค่าปรับสำหรับบุคคลที่ละเมิดกฎภายใต้การล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังรับมือกับยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่เพิ่มสูงขึ้นและนครซิดนีย์ เมืองเอกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ก็กำลังเข้าสู่สัปดาห์ที่ 8 ของการล็อกดาวน์
ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในนครซิดนีย์ ซึ่งมีประชากรมากที่สุดของประเทศอยู่ที่ 466 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นางแกลดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า ในนครซิดนีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะปรับผู้ที่ละเมิดมาตรการล็อกดาวน์ โทษฐานไม่ปฎิบัติตามคำสั่งให้อยู่ภายในบ้านหรือให้ข้อมูลเท็จกับเจ้าหน้าที่ในการสอบสวนหาที่มาของการติดเชื้อ เป็นเงิน 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ ประมาณ 122,000 บาท โดยจะปรับเงินที่จุดเกิดเหตุในทันที ก่อนหน้านี้ค่าปรับสำหรับการละเมิดคำสั่งกักตัวอยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ ประมาณ 24,500 บาท นางเบเรจิกเลียน กล่าวว่า ประชาชนต้องยอมรับว่า ขณะสถานการณ์โควิดในรัฐนิวเซาท์เวลส์ถือว่าย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่พบการระบาดเป็นครั้งแรก เมื่อประเมินสถานการณ์ในขณะนี้แล้ว มีแนวโน้มว่า นครซิดนีย์อาจจะต้องขยายคำสั่งล็อกดาวน์ออกไปอีก จากเดิมที่มาตรการล็อกดาวน์มายาวนาน 9 สัปดาห์จะหมดอายุลงในวันที่ 28 สิงหาคม เจ้าหน้าที่กำลังหารือว่า จะผ่อนคลายมาตรการบางประการ หากประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมากพอและจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง นางเบเรจิกเลียนกล่าวว่า เธอหวังว่า สถานการณ์จะดีขึ้น แต่การระบาดลักษณะนี้เป็นธรรมชาติของเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา เธอเชื่อมั่นว่าจะสามารถผ่านพ้นไปได้ แต่เดือนกันยายนและตุลาคมนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก ๆ ทหารอีกหลายร้อยคนจะถูกส่งมายังนครซิดนีย์เพี่มเติมในสัปดาห์หน้าเพื่อช่วยในการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ นอกจากนั้น ทางการยังกำหนดค่าปรับใหม่ 3,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ ประมาณ 73,000 บาท กับผู้เข้ามาในพื้นที่ของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ.-สำนักข่าวไทย