ซีดีซีของสหรัฐระบุสถานการณ์การต่อสู้กับโควิดเปลี่ยนไป

วอชิงตัน 31 ก.ค. – ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ ซีดีซี ของสหรัฐ กล่าววานนี้ว่า การต่อสู้กับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งเป็นเพราะเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา ที่ติดต่อกันได้ง่ายและรวดเร็ว พร้อมกับกล่าวอย่างชัดเจนเรื่องการบังคับฉีดวัคซีนให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และการกลับไปสวมหน้ากากอนามัย


เอกสารภายในของซีดีซี กล่าวว่า เชื้อกลายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบครั้งแรกที่ประเทศอินเดียและระบาดไปทั่วโลกในขณะนี้ มีการติดต่อกันได้ง่ายลักษณะเหมือนกับกับโรคอีสุกอีใสและติดต่อกันได้มากกว่าไข้หวัดธรรมดาหรือไข้หวัดใหญ่ และสามารถแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นได้แม้แต่จากผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว และอาจจะทำให้เกิดอาการรุนแรงมากกว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ เอกสารของซีดีซีระบุด้วยว่า การรับมือกับเชื้อไวรัสกลายพันธุ์จำเป็นต้องใช้วิธีการใหม่เพื่อช่วยให้สาธารณชนได้เข้าใจถึงอันตราย รวมทั้งการทำให้เข้าใจชัดเจนว่า คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน มีแนวโน้มที่จะมีอาการหนักหรือเสียชีวิตมากกว่าคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนมากกว่า 10 เท่า สำหรับประเด็นเรื่องข้อเสนอแนะเรื่องการป้องกันนั้น ซีดีซี กล่าวถีงการบังคับให้บุคลากรทางการแพทย์ฉีดวัคซีนและการสวมหน้ากากอนามัยทุกคน แม้ว่าคนที่ฉีดวัคซีนแล้วจะมีโอกาสน้อยที่จะติดเชื้อไวรัส แต่หากเกิดการติดเชื้อภายหลังได้รับวัคซีนและเป็นสายพันธุ์เดลตา ก็อาจจะเหมือนกับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนที่จะแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]