เผยเว้นฉีดวัคซีนไฟเซอร์นานขึ้นสร้างแอนติบอดีได้มากขึ้น

ลอนดอน 23 ก.ค. – ผลวิจัยอังกฤษระบุว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของไฟเซอร์ โดยเว้นระยะห่างให้นานขึ้นระหว่างเข็มที่ 1 และ 2 จะช่วยเพิ่มระดับโปรตีนที่สร้างจากระบบภูมิคุ้มกัน หรือแอนติบอดี ได้มากกว่าการเว้นระยะห่างที่สั้นกว่า แม้พบว่าระดับแอนติบอดีลดลงอย่างรวดเร็วหลังฉีดวัคซีนโดสแรกก็ตาม


คณะผู้เขียนรายงานผลวิจัยภายใต้การควบคุมของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษระบุว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดของไฟเซอร์ที่เว้นระยะห่างระหว่างเข็มที่ 1 และ 2 นานขึ้นจะทำให้ระดับแอนติบอดีต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาลดลงหลังได้รับวัคซีนเข็มแรก และมีระดับไม่คงที่ในช่วงที่รอฉีดวัคซีนเข็มสอง แต่หลังจากฉีดครบ 2 เข็มแล้ว ระดับแอนติบอดีสูงเป็น 2 เท่าของผู้ได้รับวัคซีนที่เว้นระยะห่างสั้นกว่า ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า ผลวิจัยดังกล่าวอาจมีส่วนช่วยในการวางกลยุทธ์ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่ลดประสิทธิภาพของวัคซีนโดสแรก แม้การฉีดวัคซีนครบสองโดสจะยังคงมีประสิทธิภาพป้องกันสายพันธุ์ดังกล่าวได้

นอกจากแอนติบอดีที่มีหน้าที่สำคัญในระบบภูมิคุ้มกันเพื่อต่อต้านเชื้อโควิดแล้ว ยังมีที-เซลล์ที่เป็นเซลล์ภูมิต้านทานชนิดหนึ่งและมีหน้าที่หลักในการหาเซลล์ที่ติดเชื้อหรือเชื้อโรคต่าง ๆ ผลวิจัยชิ้นนี้พบว่า ผู้ได้รับวัคซีนที่เว้นระยะห่างเป็นเวลานานมีระดับที-เซลล์น้อยกว่า 1.6 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ได้รับวัคซีนโดยเว้นระยะสั้นราว 3-4 สัปดาห์ แต่ก็พบว่า กลุ่มแรกมีระดับทีเซลล์เฮลเปอร์ที่ช่วยสนับสนุนภูมิคุ้มกันในระยะยาวสูงกว่ากลุ่มหลัง ทั้งนี้ คณะผู้เขียนผลวิจัยดังกล่าวได้เน้นย้ำว่า การฉีดวัคซีนทั้งสองแบบสร้างการตอบสนองของแอนติบอดีและทีเซลล์ได้เป็นอย่างดีในกลุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 503 คน


ก่อนหน้านี้ อังกฤษเคยเว้นระยะห่างในการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ระหว่างเข็มที่ 1 และ 2 นานสูงสุดถึง 12 สัปดาห์ แม้ไฟเซอร์เตือนว่าไม่มีหลักฐานสนับสนุนการเว้นระยะฉีดวัคซีนที่นานกว่า 3 สัปดาห์ ขณะนี้ อังกฤษแนะนำให้เว้นระยะห่างในการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ได้สูงสุด 8 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มจำนวนประชาชนที่จะได้รับวัคซีนในการสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา ในขณะที่ยังคงพยายามหาทางเพิ่มการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันในระยะยาว. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี

บึ้มสนั่นโรงพัก! มือมืดซุกระเบิดใต้รถกระบะของตำรวจ

2 เหตุไม่สงบ จ.นราธิวาส คนร้ายซุกระเบิดรถเจ้าหน้าที่ก่อนจุดบึ้ม ขณะจอดที่ สภ.ศรีสาคร ส่วนที่ อ.ยี่งอ ไฟไหม้รถปลัดอำเภอ เร่งตรวจสอบเอี่ยวป่วนใต้หรือไม่

ระงับจ่ายไฟ

“ภูมิธรรม” สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันไม่ต้องเข้า ครม.

“ภูมิธรรม” ใช้อำนาจรองนายกฯ ความมั่นคง สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันทำได้ทันทีไม่ต้องเข้า ครม. พร้อมเปิดระเบียบ กฟภ.สั่งตัดไฟฟ้าเองได้ หากพบกระทบความมั่นคง ลั่นหากหน่วยไหนไม่ทำตาม จะดึงตัวมาช่วยราชการ ชี้ไม่ใช่แม่พระใจดี ที่จะนิ่งเฉยได้ หากเมียนมาไม่ดำเนินการภายใน ก็ต้องรับผลกระทบ