ซิดนีย์ 22 ก.ค.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียกล่าวขอโทษที่โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศดำเนินไปอย่างล่าช้า ด้านรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศพบผู้ติดเชื้อใหม่ในวันเดียวมากที่สุดในรอบ 16 เดือน
นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ขอโทษที่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่หวังไว้ตั้งแต่ต้นปี ขณะนี้ออสเตรเลียฉีดวัคซีนได้ไม่ถึงวันละ 150,000 โดส รัฐบาลเคยแจ้งว่า จะฉีดวัคซีนให้คนวัยผู้ใหญ่ครบตามเป้าหมายภายในสิ้นปี 2564 เนื่องจากวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ของไฟเซอร์และโมเดอร์นาหลายล้านโดสกำลังทยอยเข้ามา
ด้านรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลียแจ้งวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 124 คน เพิ่มขึ้นจาก 110 คนเมื่อวันก่อน และถือว่ามากที่สุดในรอบ 16 เดือน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในนครซิดนีย์ เมืองเอกของรัฐที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้ว นางแกลดีส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีคาดว่า ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกว่าจะเริ่มลดลง และจะต้องมีผู้ติดเชื้อใหม่ใกล้เป็นศูนย์ จึงจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ที่มีกำหนดยกเลิกในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ พร้อมกับขอให้ประชาชนรีบรับการฉีดวัคซีน ขณะเดียวกันรัฐควีนส์แลนด์ได้สั่งปิดพรมแดนทางใต้ที่ติดกับรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยอ้างเรื่องการระบาด
ส่วนรัฐวิกตอเรียที่อยู่ถัดจากรัฐนิวเซาท์เวลส์ลงไปทางใต้และมีประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศ ใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นสัปดาห์ที่ 2 แล้ว วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 26 คน เพิ่มขึ้นจาก 22 คนเมื่อวันก่อน ทั้งหมดโยงกับผู้ติดเชื้อเก่า ขณะที่รัฐเซาท์ออสเตรเลียที่ล็อกดาวน์เช่นกันพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 คน ตามที่ทางการกำลังติดตามผู้ติดเชื้อจากการรวมกลุ่ม 2 งานที่เป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ในเมืองแอดิเลดที่เป็นเมืองเอก.-สำนักข่าวไทย