ย่างกุ้ง 20 ก.ค. – กระทรวงสาธารณสุขเมียนมาภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหารเมียนมาคาดว่า ชาวเมียนมาราวครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 54 ล้านคนจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ภายในปีนี้ หลังจากที่เมื่อวานนี้เมียนมาพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดสูงเป็นประวัติการณ์
หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลต์ออฟเมียนมาของทางการเมียนมารายงานวันนี้ว่า กระทรวงสาธารณสุขเมียนมาตั้งเป้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้แก่ชาวเมียนมาครึ่งหนึ่งจากประชากรทั้งหมดภายในปีนี้ ขณะนี้เมียนมาฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนไปได้เพียง 1.6 ล้านคน แต่ทางการกำลังสั่งซื้อวัคซีนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าชาวเมียนมาทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า เมียนมาจะได้รับวัคซีนของจีนราว 750,000 โดสในวันพฤหัสบดี และมีกำหนดได้รับวัคซีนเพิ่มอีกใน 2 วันหลังจากนั้น ขณะที่สถานีโทรทัศน์และวิทยุของทางการเมียนมา หรือเอ็มอาร์ทีวี รายงานอ้างกระทรวงสาธารณสุขเมียนมาว่า เมื่อวานนี้พบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น 281 ราย ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 5,189 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 234,700 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 5,200 คน
ในขณะเดียวกัน เว็บไซต์เรดิโอฟรีเอเชีย หรือวิทยุเอเชียเสรีของสหรัฐ รายงานอ้างคำพูดนายส่อ เหว่ โซ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา หรือเอ็นยูจี ที่เป็นรัฐบาลเงาและจัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาที่ระบุว่า เมียนมาอาจมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดมากถึง 400,000 คน หากยังไม่ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมยอดผู้ป่วยติดเชื้อ ขณะที่นักวิจารณ์รัฐบาลทหารเมียนมากล่าวว่า ชาวเมียนมาหลายคนต้องเสียชีวิตจากโรคโควิด เพราะเมียนมาใช้ข้อจำกัดในการจัดหาออกซิเจนของภาคเอกชนบางรายเพื่อยับยั้งการกักตุนออกซิเจน อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์สยังไม่สามารถติดต่อกระทรวงสาธารณสุขเมียนมาหรือโฆษกรัฐบาลทหารเพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิดและแนวทางการรับมือได้ในขณะนี้.-สำนักข่าวไทย