สหรัฐเตือนทำธุรกิจในฮ่องกงมีความเสี่ยง

Buildings on the Hong Kong skyline are seen from Victoria Peak at night in Hong Kong, China, on Wednesday, Aug. 28, 2019. Anti-government protesters in Hong Kong have sustained their momentum since the first rally on June 9, creating the biggest crisis for Beijings rule over the former British colony since returning to China in 1997. On Monday, Sept. 16, the protests, which show no sign of stopping, will reach the 100-day mark. Photographer: Bloomberg/Bloomberg

วอชิงตัน 17 ก.ค.- รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐมีคำเตือนแบบครอบคลุมไปยังบริษัทอเมริกันว่า การทำธุรกิจในฮ่องกงมีความเสี่ยง เนื่องจากจีนยังคงกวาดล้างเสรีภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจในฮ่องกง


กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงคลัง กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐเผยแพร่คำแนะนำความยาว 9 หน้าเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ คำแนะนำที่ใช้หัวเรื่องว่า “ความเสี่ยงและข้อพิจารณาในการดำเนินธุรกิจในฮ่องกง” ระบุว่า บุคคลหรือนิติบุคคล รวมทั้งสถาบันวิชาการ ผู้ให้บริการด้านการวิจัย และนักลงทุนที่ดำเนินงานในฮ่องกง หรือติดต่อกับบุคคลหรือคณะบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร ควรระวังความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับกฎหมายและระเบียบของฮ่องกง ภูมิทัศน์นิติศาสตร์ใหม่ในฮ่องกงอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจและบุคคลในฮ่องกง จึงควรระวังเรื่องอาจเกิดความเสี่ยงทางชื่อเสียง ระเบียบ การเงิน และกฎหมายกับการดำเนินงานในฮ่องกงได้

ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวกับสื่อที่ทำเนียบขาวหนึ่งวันก่อนหน้านั้นว่า สภาพแวดล้อมทางธุรกิจในฮ่องกงกังเสื่อมโทรมและอาจเลวร้ายลงอีก ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐหยิบยกคำแนะนำนี้ในระหว่างแถลงเรื่องจีนออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติกับฮ่องกงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนปีก่อนที่มีผลเชิงลบอย่างลึกซึ้งกับฮ่องกงว่า ความเสี่ยงต่อธุรกิจมีทั้งอาจถูกเฝ้าระวังทางอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีความเป็นส่วนตัวทางข้อมูล เข้าถึงข้อมูลได้น้อยลง และถูกตอบโต้ที่ทำตามมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ


ด้านทางการฮ่องกงแถลงว่า คำแนะนำดังกล่าวน่าขำและสร้างความกลัวอย่างไร้มูล อันเกิดจากอุดมการณ์ของสหรัฐ น่าเศร้าว่าเหยื่อหลักของผลร้ายนี้จะเป็นธุรกิจและชาวอเมริกันที่เห็นฮ่องกงเป็นเสมือนบ้านหลังหนึ่ง ขณะที่หอการค้าอเมริกันในฮ่องกงยอมรับว่า สภาพแวดล้อมทางธุรกิจมีความซ้บซ้อนและท้าทายมากขึ้น แต่จะคอยให้การสนับสนุนสมาชิกฝ่าฝันความเสี่ยงและหาโอกาสในการทำธุรกิจต่อไป เพราะฮ่องกงยังคงเป็นผู้ให้บริการทางการค้าและการเงินที่สำคัญระหว่างโลกตะวันตกกับตะวันออก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม

ปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

รองผู้ว่าฯ กทม. เผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 16 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 78 ราย พร้อมแจงปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน