ซิดนีย์ 17 ก.ค.- นครซิดนีย์ เมืองใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียเพิ่มความเข้มงวดมาตรการล็อกดาวน์อีกในวันนี้ ด้วยการสั่งปิดสถานที่ก่อสร้างและร้านค้าปลีกที่ไม่จำเป็น สั่งปรับนายจ้างที่ให้พนักงานกลับมาทำงานที่สำนักงาน เนื่องจากยอดผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นทั้งที่กำลังล็อกดาวน์นาน 3 สัปดาห์
ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังห้ามคนชานเมืองฝั่งตะวันตกของซิดนีย์ 3 เขต ซึ่งเป็นจุดที่มีการระบาดหนักที่สุด ออกจากบ้านไปทำงาน ครอบคลุมประชากร 612,000 คน ยกเว้นเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน ส่วนพนักงานภาคธุรกิจให้ทำงานจากบ้านอยู่แล้ว นายจ้างที่บังคับให้กลับเข้าสำนักงานจะถูกปรับ 10,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 242,685 บาท) เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อใหม่ 111 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 97 คนในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 3 คนนับตั้งแต่ต้นปี ชาวนครซิดนีย์ 5 ล้านคนอยู่ภายใต้ล็อกดาวน์มาตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 30 กรกฎาคม หลังจากคนขับรถรับส่งจากสนามบินนำเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตามาติดในชุมชน และกลายเป็นการระบาดใหญ่ คนในและรอบซิดนีย์มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกกว่า 1,000 คน
ด้านรัฐวิกตอเรียที่อยู่ถัดลงไปทางใต้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจาก 6 คนเมื่อวันศุกร์เป็น 19 คนในวันนี้ จุดกระแสวิตกว่ามาตรการล็อกดาวน์ 6 วันที่ใช้กับประชากร 7 ล้านคนตั้งแต่วันพฤหัสบดีถึงวันอังคารหน้าอาจถูกขยายต่อไปอีก จนถึงขณะนี้ประชากรออสเตรเลีย 25 ล้านฉีดวัคซีนครบแล้วเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมตั้งแต่พบการระบาดมีกว่า 31,700 คน เสียชีวิตกว่า 910 คน.-สำนักข่าวไทย