โซล 14 ก.ค. – เกาหลีใต้ยกระดับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวดขึ้นเกือบทุกพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่สูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง
นายกรัฐมนตรีคิม บู-คยอม ของเกาหลีใต้ กล่าวว่า รัฐบาลเกาหลีใต้จะยกระดับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นระดับ 2 จากทั้งหมด 4 ระดับในเกือบทุกพื้นที่ทั่วประเทศตั้งแต่วันพฤหัสบดี ยกเว้นพื้นที่บางส่วนทางตอนใต้ของประเทศ มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับ 2 จะห้ามการรวมตัวของประชาชนเกิน 8 คน ส่วนร้านอาหารและบาร์ต้องปิดบริการก่อนเที่ยงคืน ขณะที่กรุงโซลและพื้นที่โดยรอบกำลังอยู่ภายใต้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับ 4 ที่เป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา โดยห้ามประชาชนรวมตัวเกิน 2 คนหลังเวลา 18.00 น.
สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี หรือเคดีซีเอ รายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,615 คน ทำลายสถิติสูงสุด 1,378 คนของเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในอินเดียและแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดที่สะดุดปัญหา รวมถึงการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบ ขณะนี้ เกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 171,900 คน และผู้เสียชีวิต 2,948 คน
เคดีซีเอระบุเพิ่มเติมว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการะบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่คิดเป็นอัตราร้อยละ 30.7 ของตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมดในช่วงวันที่ 4-10 กรกฎาคม และคิดเป็นร้อยละ 70 ของเชื้อโควิดสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้พบผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยติดเชื้ออาการหนักน้อยกว่าการระบาดในระลอกก่อน เนื่องจากกลุ่มเปราะบางและผู้สูงวัยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดแล้ว ส่วนโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนประสบปัญหาล่าช้าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยฉีดวัคซีนโดสแรกได้ร้อยละ 30.6 จากประชากรทั้งหมด 52 ล้านคน ในขณะที่กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เช่น อังกฤษและสิงคโปร์ กลับฉีดวัคซีนโดสแรกได้กว่าร้อยละ 60 ของประชากรทั้งหมดแล้ว.-สำนักข่าวไทย