เจนีวา 10 ก.ค. – องค์การอนามัยโลก กล่าววานนี้ว่า ประโยชน์ของวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ มีน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยงที่มีระดับน้อยมากที่จะเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เนื่องจากการฉีดวัคซีนนี้จะช่วยลดการต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต
คณะกรรมการที่ปรึกษาขององค์การอนามัยโลกกล่าวในแถลงการณ์ว่า รายงานการเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ซึ่งเป็นอาการหายาก ที่เกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอไปแล้ว 2-3 วัน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับเพศชายที่เป็นวัยรุ่นหลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว แถลงการณ์ระบุว่า ประโยชน์ของวัคซีนโควิด-19 ที่ใช้เทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็นเอ มีน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง เนื่องจากสามารถช่วยลดการต้องเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตจากโควิดได้ ขณะนี้มีวัคซีน 2 ขนานที่ใข้เทคโนโลยีแบบเอ็มอาร์เอ็นเอได้แก่ วัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคและของโมเดอร์นา คณะที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลกกล่าวด้วยว่า ข้อมูลที่มีอยู่ที่ชี้ว่า อาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบหลังจากการฉีดวัคซีนยังมีน้อย และจะต้องมีการติดตามการใช้วัคซีนอย่างต่อเนื่องเพื่อลงความเห็นเกี่ยวกับผลในระยะยาวต่อไป นอกจากนั้น ยังระบุว่า ผู้ที่เข้ารับวัคซีนแต่ละคนควรได้รับคำแนะนำให้พบแพทย์ในทันทีที่พบว่ามีอาการของอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ เช่น ปวดหน้าอก หายใจถี่ หรือ ใจสั่น หลังจากที่เข้ารับวัคซีนแล้ว เมื่อวันศุกร์ หน่วยงานกำกับดูแลเรื่องการใช้ยาของยุโรป ก็ระบุว่า พบความเป็นไปได้ที่จะมีความเกี่ยวข้องกันระหว่างการเกิดอาการหัวใจอักเสบชนิดหายากกับวัคซีนโควิดของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคและโมเดอร์นา แต่ก็เน้นว่า ประโยชน์จากวัคซีนมีน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง.-สำนักข่าวไทย