โซล 9 ก.ค. – เกาหลีใต้จะยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นระดับสูงสุดในกรุงโซลและภูมิภาคใกล้เคียงเป็นเวลา 2 สัปดาห์ตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้ หลังพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงสุดเป็นวันที่สอง
เกาหลีใต้รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,316 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมานับถึงเที่ยงคืนวันพฤหัสบดี เพิ่มขึ้นจากวันก่อนที่มี 1,275 คน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 165,300 คน และผู้เสียชีวิต 2,036 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของเกาหลีใต้เตือนว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าภายในสิ้นเดือนนี้
นายกรัฐมนตรีคิม บู-คยอม ของเกาหลีใต้กล่าวในการประชุมคณะรัฐบาลที่ถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ว่า เกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในระดับ 500 คนที่กรุงโซลติดต่อกันเป็นวันที่สาม ซึ่งคิดเป็น 4 ใน 5 หรือร้อยละ 80 ของยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันทั้งหมด แม้ทางการจะประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิดระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมทั้งหมดในวันจันทร์หน้า แต่ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการรวมตัวในบ้านตั้งแต่วันนี้ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า รัฐบาลเกาหลีใต้จะระงับโครงการอนุญาตให้ชาวเกาหลีใต้ที่ฉีดวัคซีนโควิดโดสแรกไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะเป็นการชั่วคราวในช่วงที่ใช้มาตรการกึ่งล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 สัปดาห์
มาตรการดังกล่าวจะทำให้ประชาชนต้องอยู่แต่ในบ้านให้ได้มากที่สุด โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอน จำกัดการรวมตัวในที่สาธารณะได้ไม่เกิน 2 คนหลังเวลา 18.00 น. และห้ามจัดงานเลี้ยงหรือการชุมนุม ขณะที่ไนต์คลับและบาร์จะถูกสั่งปิด ส่วนร้านอาหารและคาเฟ่จะถูกจำกัดจำนวนที่นั่งภายในร้านและต้องจำหน่ายอาหารแบบซื้อกลับบ้านเท่านั้นหลังเวลา 22.00 น.
ขณะนี้ เกาหลีใต้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบสองโดสให้แก่ประชาชนได้เพียงร้อยละ 10 จากประชากรทั้งหมด 52 ล้านคน และมีร้อยละ 30 ที่ได้รับวัคซีนโดสแรก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนวัย 60 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ เกาหลีใต้ตั้งเป้าสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศก่อนเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยจะฉีดวัคซีนโดสแรกให้แก่ประชาชนร้อยละ 70 ภายในเดือนกันยายน.-สำนักข่าวไทย