พรรคอัมโนประกาศถอนสนับสนุนผู้นำมาเลเซีย

กัวลาลัมเปอร์ 8 ก.ค. – พรรคพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ หรีอ อัมโน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่ที่สุดของมาเลเซียและแกนหลักพันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาลประกาศถอนการสนับสนุนนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซียเมื่อค่ำวานนี้ และเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากประสบความล้มเหลวในการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19


พรรคอัมโนตัดสินใจถอนการสนับสนุนนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดินเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากผู้นำมาเลเซียประกาศแต่งตั้งสมาชิกระดับอาวุโสของพรรคให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์แข่งขันภายในพรรคที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายเดือน ขณะที่ ส.ส. ของพรรคอัมโนบางส่วนไม่พอใจที่สมาชิกของพรรคได้รับตำแหน่งรองจากคนในพรรคของนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีความชัดเจนว่าการถอนตัวของพรรคอัมโนจะทำให้ผู้นำมาเลเซียต้องลงจากตำแหน่งในทันที เนื่องจากรัฐสภามาเลเซียยังไม่เปิดสมัยประชุม และมาเลเซียกำลังอยู่ภายใต้ภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่รัฐมนตรีของพรรคอัมโนที่ดำรงตำแหน่งในกระทรวงหลัก เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม และกระทรวงต่างประเทศ ยังไม่ได้ระบุว่าจะลาออก ด้านสำนักนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียยังไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในทันที


นายอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี ประธานพรรคอัมโน ระบุในแถลงการณ์ว่า พรรคอัมโนตัดสินใจถอนการสนับสนุนนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน เนื่องจากความล้มเหลวของรัฐบาลในการจัดการโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงการได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดินควรหาทางแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีชั่วคราวที่มุ่งเน้นไปที่การรับมือกับโรคโควิด-19 และเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งหลังมาเลเซียสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศได้

นายอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี

นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดินระบุเมื่อต้นปีที่ผ่านมาว่า เขาจะจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุดเมื่อบ้านเมืองปลอดภัยจากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 แม้จะครบกำหนดจัดเลือกตั้งในปี 2566 ก็ตาม ทั้งนี้ ผู้นำมาเลเซียถือเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ โดยครองเสียงข้างมากในสภามากกว่าพรรคฝ่ายค้านเพียง 2 เสียง ขณะที่พรรคอัมโนครองเสียงมากถึง 38 เสียงจากจำนวน ส.ส. ในสภาทั้งหมด 113 คน ส่วนพรรคเบอร์ซาตูของนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดินมี 31 เสียง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย