สหรัฐ 18 พ.ย.-นายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น พบหารือกับว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์แล้ว นับเป็นผู้นำต่างประเทศคนแรก ที่ได้พบหารือกับนายทรัมป์ตัวต่อตัว ที่อาคารทรัมป์ทาวเวอร์ ในนครนิวยอร์ก โดยนายอาเบะระบุว่าการหารือตลอดเวลา 90 นาที เป็นไปอย่างอบอุ่นฉันท์มิตร ไม่เหมือนกับตอนที่ทรัมป์เคยพูดระหว่างการหาเสียงว่า สหรัฐเบื่อหน่ายเต็มทีกับการช่วยประเทศในเอเชีย ดูแลด้านความมั่นคง
อาเบะ ชื่นชมทรัมป์ว่าเป็นผู้นำคนหนึ่ง ที่เขาสามารถเชื่อมั่นได้อย่างยิ่ง โดยการหารือเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา สำหรับการพบหารือกับนายทรัมป์ครั้งนี้ มีนายจาเร็ด คุชเนอร์บุตรเขย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคนสนิทของทรัมป์ และอีวังก้า บุตรสาวของทรัมป์ร่วมต้อนรับด้วย อย่างไรก็ตาม นายอาเบะ เปิดเผยรายละเอียดของการหารือเพียงเล็กน้อย เพราะเป็นการหารืออย่างไม่เป็นทางการ โดยผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันว่าจะหารือ ในเชิงลึกและกว้างขวางกว่านี้ในอนาคต แต่ผลของการสนทนาในครั้งนี้ ได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่รัฐบาลญี่ปุ่นอย่างยิ่ง ญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิด และเก่าแก่ของสหรัฐในเอเชีย แต่ตอนหาเสียงทรัมป์ได้ทำให้หลายประเทศในเอเชียไม่สบายใจ หลังเขาประกาศจะถอนทหารสหรัฐออกจากภูมิภาคเอเชีย และว่าทุกประเทศต้องดูแลตัวเอง
แถมยังแนะนำให้ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ด้วย นอกจากนี้ว่าที่ผู้นำคนที่ 45 ของสหรัฐ ยังมีจุดยืนเรื่องการฉีกข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ ในภูมิภาคแปซิฟิคหรือ TPP หรือไม่ก็ให้เจรจาข้อตกลง TPP ใหม่เพราะมองว่าไม่มีประโยชน์ และสหรัฐเสียเปรียบเรื่องนี้ ยิ่งทำให้ญี่ปุ่นไม่สบายใจ เพราะเป็นประเทศที่สนับสนุน TPP อย่างเต็มตัว
ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่วันนี้ มีข่าวว่าทรัมป์ กำลังเตรียมมอบตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศให้นายมิตต์ รอมนีย์ ที่เคยเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ คู่กับ นายบารัค โอบามา เมื่อ 4 ปีก่อน โดยทรัมป์ มีกำหนดพบหารือกับนายมิตต์ รอมนีย์ อดีตผู้ว่าการ รัฐแมสซาชูเซตส์ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งหากข่าวของ CNN และ NBC เป็นความจริงก็จะถือว่า นายทรัมป์ ได้ส่งสัญญาณประนีประนอมครั้งสำคัญที่สุด ภายในพรรครีพับลิกัน เนื่องจากนายรอมนีย์เป็นสมาชิก พรรครีพับลิกัน ระดับแกนนำฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่ประกาศจุดยืน ชัดเจนมาโดยตลอดว่าไม่สนับสนุนทรัมป์ ในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี เนื่องจากทรัมป์มีนโยบายขัดแย้งกับพรรคหลายเรื่อง แต่เมื่อ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งรอมนีย์ได้โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับทรัมป์.-สำนักข่าวไทย