ซิดนีย์ 7 ก.ค. – รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดในนครซิดนีย์ต่อไปอีก 1 สัปดาห์ และเตือนว่ายอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่จะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา
นางแกลดีส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก กล่าววันนี้ว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในอินเดียทำให้สถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เนื่องจากเชื้อโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ ทั้งยังกล่าวเตือนประชาชนในนครซิดนีย์ว่า เธอคาดว่าจะพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นในนครซิดนีย์ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า
ในขณะเดียวกัน รัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 27 คน เพิ่มขึ้นจากวันก่อนที่มี 18 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อ 20 คนที่อยู่ในช่วงกักตัวหรืออยู่ในช่วงระยะแพร่เชื้อ และมีผู้ป่วยติดเชื้ออีก 7 คนที่เดินทางไปทั่วชุมชนขณะติดเชื้อโควิด ขณะนี้ นครซิดนีย์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมจากการระบาดครั้งล่าสุด 350 คนนับตั้งแต่พบผู้ป่วยติดเชื้อรายแรกเป็นพนักงานขับรถลีมูซีนรับส่งลูกเรือสายการบินระหว่างประเทศที่หาดบอนไดในย่านชานเมืองนครซิดนีย์เมื่อกว่าสามสัปดาห์ก่อน
นครซิดนีย์ ซึ่งมีประชากรราว 5 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 5 ของประชากรออสเตรเลียทั้งหมด 25 ล้านคน ตกอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน เนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องประกาศใช้มาตรการเข้มงวดขึ้น ก่อนหน้านี้ การใช้คำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านมีกำหนดสิ้นสุดในวันศุกร์นี้ แต่ถูกขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 16 กรกฎาคม ขณะนี้ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 30,800 คน และผู้เสียชีวิต 910 คน.-สำนักข่าวไทย