เจนีวา 30 มิ.ย. – สหประชาชาติกล่าววันนี้ว่า การท่องเที่ยวยังคงจะอยู่ในสภาพซบเซาในปีนี้ ยกเว้นในตลาดการท่องเที่ยวในประเทศตะวันตกบางแห่ง ทำให้ต้องเผชิญกับภาวะขาดทุน 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ฯ และเชื่อว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ก่อนปี 2023
รายงานของการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด และองค์การท่องเที่ยวโลกของสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ กล่าวว่า การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และการออกใบรับรองการฉีดวัคซีนแล้ว จะเป็นกุญแจที่จะช่วยพลิกฟื้นความเชื่อมั่นของการท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการต่อชีวิตให้กับเศรษฐกิจของหลายประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นเกาะเล็ก ๆ รายงานระบุว่า ในปี 2020 การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศลดลงไปร้อยละ 73 เมื่อเปรียบเทียบกับระดับก่อนโควิด-19 ในปี 2019 ทำให้ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้องต้องขาดทุน 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ฯ
ราล์ฟ ปีเตอร์ส นักวิเคราะห์ของอังค์ถัด กล่าวว่า แนวโน้มของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปีนี้ก็ไม่ได้ดีขึ้นมากนัก ในช่วง 3 เดือนแรก ถือว่าย่ำแย่ ไม่มีการเดินทางท่องเที่ยวเกิดขึ้นมากนัก แต่หลังจากที่ได้มีการระดมฉีดวัคซีนไปแล้ว มีความคาดหมายว่า จะเริ่มมีการฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อย่างน้อยก็ในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรป ซอริตซา ยูโรเซวิช ตัวแทนจากยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ กล่าวว่า การท่องเที่ยวระหว่างประเทศในขณะนี้อยู่ในระดับเท่ากับเมื่อ 30 ปีที่แล้ว แต่คาดหมายว่า จะสามารถพลิกฟื้นกลับมาอยู่ในระดับปี 2019 ได้หลังจากปี 2023 ไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย