ญี่ปุ่นบริจาควัคซีน 1 ล้านโดสให้ไต้หวัน เวียดนามและไทย

โตเกียว 25 มิ.ย. – ญี่ปุ่นจะบริจาควัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาเพิ่มอีก 1 ล้านโดสให้แก่ไต้หวัน เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย


นายโทชิมิทสึ โมเทกิ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่น เผยวันนี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังดำเนินการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาให้แก่ไต้หวัน เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ประเทศละ 1 ล้านโดส ทั้งยังระบุว่า ญี่ปุ่นจะเริ่มส่งมอบวัคซีนทั้งหมด 11 ล้านโดสให้แก่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ และหมู่เกาะแปซิฟิกผ่านโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลกตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นได้บริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 1.24 ล้านโดสให้แก่ไต้หวันในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ส่วนสหรัฐบริจาควัคซีนโควิด 2.5 ล้านโดส และลิทัวเนียได้บริจาควัคซีน 20,000 โดสให้ไต้หวันเช่นกัน

นายโทชิมิทสึ โมเทกิ

ในขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศของไต้หวันได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่น พร้อมทั้งระบุว่า แม้หนทางในการรับมือกับโรคโควิด-19 ยังอีกยาวไกล แต่เห็นได้ชัดว่าไต้หวันไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ไม่เผยนามของไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดในการประสานงานด้านการรับบริจาควัคซีนโควิดทั้งสองครั้งที่ผ่านมา กล่าวว่า แม้รัฐบาลญี่ปุ่นจะระบุเป็นนัยว่าการบริจาควัคซีนมีขึ้นเพื่อบรรเทาความต้องการทางการแพทย์ที่เร่งด่วนเป็นหลัก แต่การกระทำดังกล่าวถือเป็นย่างก้าวที่สำคัญในการสะท้อนนโยบายภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างของสหรัฐ เพื่อตอบโต้อิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ของจีนในพื้นที่ดังกล่าว ขณะนี้ ไต้หวันฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกให้แก่ประชาชนได้เพียงร้อยละ 7 จากประชากรทั้งหมด 23.5 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย