วอชิงตัน 24 มิ.ย. – องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ หรือเอฟดีเอ เตรียมเร่งดำเนินการเพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบชนิดหายากในกลุ่มวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวไว้ในเอกสารข้อเท็จจริงสำหรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอนเทคและโมเดอร์นาที่ใช้เทคโนโลยี mRNA
คณะที่ปรึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ หรือซีดีซี ได้จัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับรายงานภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และพบว่าภาวะดังกล่าวที่เกิดในกลุ่มวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวอาจมีความเชื่อมโยงกับวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา แต่ประโยชน์ของวัคซีนมีมากกว่าความเสี่ยงอย่างชัดเจน ซีดีซียังระบุว่า ผู้ป่วยที่มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าวมักจะหายป่วยและมีอาการดีขึ้นเอง
ในขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐร่วมกับกลุ่มแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชั้นนำของสหรัฐได้ออกแถลงการณ์เน้นย้ำว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์และโมเดอร์นามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ส่วนภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่เป็นผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนดังกล่าวนั้นเป็นชนิดหายาก ทั้งยังระบุว่า กระทรวงฯ แนะนำอย่างยิ่งให้ประชาชนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปเข้ารับการฉีดวัคซีนดังกล่าว โดยที่วัคซีนทั้งสองขนานได้รับอนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉินในกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป
สหรัฐกำลังวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในอินเดียและแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิม รวมถึงผลกระทบของเชื้อไวรัสดังกล่าวในประชาชนวัยหนุ่มสาว จนทำให้สหรัฐต้องเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน แม้อัตราฉีดวัคซีนในประเทศจะชะลอตัวลงอย่างมาก ทั้งนี้ สหรัฐมียอดผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโดสแรกลดลงถึงร้อยละ 85 เมื่อเทียบกับในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ทำสถิติฉีดวัคซีนสูงสุด และมีแนวโน้มที่จะไม่บรรลุเป้าฉีดวัคซีนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐตั้งไว้ว่าจะฉีดวัคซีนโดสแรกให้แก่ประชาชนวัยผู้ใหญ่ให้ได้ร้อยละ 70 ภายในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้.-สำนักข่าวไทย