แคนเบอร์รา 22 มิ.ย. – องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก แนะนำว่า ควรขึ้นบัญชี “เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ” ของออสเตรเลียเป็นมรดกโลกที่อยู่ในภาวะอันตราย ขณะที่ออสเตรเลียแย้งด้วยความไม่พอใจว่า คำแนะนำดังกล่าวเป็นการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว พร้อมระบุว่า เป็นการแทรกแซงทางการเมือง
คณะกรรมการของยูเนสโกระบุว่า เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ ซึ่งเป็นแนวปะการังขนาดใหญ่ที่สุดในโลกของออสเตรเลีย ควรได้รับการขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกที่อยู่ในภาวะอันตราย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขณะที่นางซุสซาน เลย์ รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของออสเตรเลียกล่าวว่า รัฐบาลออสเตรเลียมั่นใจว่า จะไม่มีข้อเสนอแนะใด ๆ เกี่ยวกับแนวปะการังดังกล่าวจากสหประชาชาติ หรือยูเอ็นก่อนถึงเดือนหน้า เธอและนางมาริส เพย์น รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของออสเตรเลียได้พูดคุยกับนางออเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการยูเนสโกเมื่อคืนนี้ ทั้งยังระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีข้อบกพร่อง และเห็นได้ชัดว่ามีการเมืองอยู่เบื้องหลัง
ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามของรัฐบาลออสเตรเลียที่ระบุว่า ออสเตรเลียเชื่อว่าจีนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวดังกล่าว เนื่องจากความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอยู่ในขั้นย่ำแย่ เจ้าหน้าที่ของจีนมีอิทธิพลอย่างมากต่อคณะกรรมการทั้งสามชุดของยูเนสโก ในขณะที่ตัวแทนของจีนได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโก ทั้งยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ออสเตรเลียจะยื่นอุทธรณ์ในกรณีดังกล่าว แต่จีนมีอำนาจควบคุม การประชุมที่จะจัดขึ้นในจีนจึงไม่มีความหวังมากนัก
อย่างไรก็ดี นายริชาร์ด เล็ค หัวหน้าฝ่ายมหาสมุทรขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลประจำออสเตรเลีย ระบุในแถลงการณ์ทางอีเมลว่า คำแนะนำของยูเนสโกมีความชัดเจนว่า รัฐบาลออสเตรเลียพยายามปกป้องแหล่งมรดกทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ได้ไม่ดีพอ โดยเฉพาะในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ข้อเสนอแนะของยูเอ็น ซึ่งจะนำไปพิจารณาในที่ประชุมของคณะกรรมการที่จะจัดขึ้นในจีนเดือนหน้า ขัดต่อคำกล่าวอ้างของออสเตรเลียที่ระบุว่ากำลังจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง ทั้งนี้ การพึ่งพาพลังงานถ่านหินทำให้ออสเตรเลียเป็นประเทศหนึ่งที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อจำนวนประชากรอยู่ในระดับสูงของโลก แต่รัฐบาลที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมกลับสนับสนุนอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงถ่านหินมาโดยตลอด และแย้งว่าการเข้มงวดด้านการปล่อยมลพิษจะทำให้ประชาชนตกงาน.-สำนักข่าวไทย