โซมาเลีย 6 มี.ค.-นายกรัฐมนตรีโซมาเลีย ระบุประชาชนถึง 110 คน เสียชีวิตจากความอดอยากในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ในระยะ 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดภาวะแห้งแล้งอย่างรุนแรง
นายกรัฐมนตรีฮัสซัน อาลี แคร์ เผยถึงตัวเลขผู้เสียชีวิตในระหว่างประชุมคณะกรรมาธิการภัยแล้งแห่งชาติ ว่ามีชาวบ้านถึง 110 คน หิวตายในเขตเบย์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกที่ทางการโซมาเลียประกาศตัวเลขผู้เสียชีวิตจากความอดอยาก และรัฐบาลยังไม่ทราบแน่ชัดว่าผลกระทบจากภาวะภัยแล้งทั่วประเทศจะรุนแรงถึงขั้นใด
วิกฤติภัยแล้งในครั้งนี้สร้างความวิตกกังวลอย่างมากแก่กลุ่มองค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เนื่องจากคาดว่าประชากรกว่า 3 ล้านคนในโซมาเลียกำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากภัยแล้ง โดยประธานาธิบดี โมฮัมหมัด อับดุลลาฮี ฟาร์มาโฮ ได้ประกาศให้ภัยแล้งเป็นภัยพิบัติแห่งชาติเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อท้องถิ่นรายงานด้วยว่า ยังชาวโซมาเลียนับร้อยคนเสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรคในเมืองออว์ดินเลและแคว้นเบย์ เนื่องจากขาดแคลนน้ำดื่มที่สะอาด
สถานการณ์ภัยแล้งในโซมาเลียขณะนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ส่งผลกระทบต่อฝั่งตะวันออกและฝั่งใต้ของทวีปแอฟริกา ภาวะขาดแคลนอาหารและน้ำยังทำให้สัตว์เลี้ยงจำนวนมากล้มตาย เหลือเพียงซากเกลื่อนตามพื้นที่ต่างๆ ภาวะอดอยากในโซมาเลียเคยคร่าชีวิตประชาชนถึง 260,000 คน ระหว่างปี 2553-2555 และภาวะอดอยากเมื่อปี 2525 ก็คร่าชีวิตชาวบ้านไปราว 220,000 คน
โซมาเลียเป็น 1 ใน 4 ชาติที่สหประชาชาติระบุว่า เสี่ยงต่อการเกิดภาวะอดอยากและหิวโหยอย่างรุนแรงที่สุด ส่วนอีก 3 ชาติ คือ ไนจีเรีย เซาท์ซูดาน และเยเมน ด้านนายสตีเฟน โอไบรอัน ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ มีกำหนดเดินทางไปยังโซมาเลียภายใน 2-3 วันนี้ ขณะที่ในแต่ละวัน มีผู้อพยพหนีความแห้งแล้งเข้าสู่กรุงโมกาดิชูวันละหลายพันคน เพื่อหาอาหารประทังชีวิต จนทำให้องค์การบรรเทาทุกข์ไม่อาจจะแบกรับไหว.-สำนักข่าวไทย