ซิดนีย์/แคนเบอร์รา 17 มิ.ย. – ออสเตรเลียจะแนะนำให้ประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาเท่านั้น หลังได้รับรายงานผู้ฉีดวัคซีนดังกล่าวมีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียเผยว่า ออสเตรเลียฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาให้แก่ประชาชน 3.3 ล้านคน และพบความเชื่อมโยงที่ทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ฉีดวัคซีน 60 คน ขณะนี้ ออสเตรเลียมีผู้เสียชีวิตจากภาวะดังกล่าว 2 ราย และทำให้รัฐบาลต้องปรับเปลี่ยนนโยบาย การปรับคำแนะนำในครั้งนี้อ้างอิงหลักฐานใหม่ที่แสดงให้เห็นว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันชนิดหายากในกลุ่มคนอายุ 50-59 ปี ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า คำแนะนำดังกล่าวจะไม่ทำให้กำหนดการฉีดวัคซีนโควิดล่าช้า โดยที่ออสเตรเลียตั้งเป้าฉีดวัคซีนโดสแรกให้แก่ประชาชนทั้งหมดราว 25 ล้านคนภายในปีนี้ ทั้งนี้ ออสเตรเลียได้สั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์เพิ่มเป็น 40 ล้านโดสในเดือนเมษายน และสั่งซื้อวัคซีนของโมเดอร์นาเพิ่มอีก 25 ล้านโดส
ในขณะเดียวกัน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอกและเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศเพิ่มเป็น 4 คน และยังไม่ทราบแหล่งที่มาของการระบาด เจ้าหน้าที่รัฐนิวเซาท์เวลส์เผยว่า เมื่อวานนี้พบชายวัย 60 ปีเศษที่ทำงานขับรถรับส่งลูกเรือของสายการบินระหว่างประเทศติดเชื้อโควิด ซึ่งถือเป็นผู้ป่วยติดเชื้อรายแรกในรอบกว่าเดือนของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ต่อมาภรรยาของชายคนดังกล่าวก็ติดเชื้อโควิดเช่นกัน ผลทดสอบทางพันธุกรรมระบุว่า ชายคนดังกล่าวติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่พบการระบาดครั้งแรกในอินเดีย ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 30,300 คน และมีผู้เสียชีวิต 910 คน.-สำนักข่าวไทย