เมลเบิร์น 9 มิ.ย. – นครเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับสองของออสเตรเลีย จะยกเลิกการใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดตามกำหนดในคืนวันพฤหัสบดีนี้ แต่มีแนวโน้มที่จะยังคงใช้มาตรการบางส่วนที่จำกัดการเดินทางและการรวมตัวของประชาชนต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์
รัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก ระบุว่า จะยกเลิกการใช้มาตรการล็อกดาวน์นครเมลเบิร์น ซึ่งมีประชากรราว 5 ล้านคนตามกำหนดในเวลา 23.59 น. ของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หลังอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดที่ทำให้ประชาชนต้องอยู่แต่ในบ้านและออกจากบ้านเมื่อมีเหตุจำเป็นมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ของรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า ทางการไม่อนุญาตให้ประชาชนเดินทางไปไกลกว่ารัศมี 25 กิโลเมตรจากบ้านพัก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในช่วงวันหยุดยาวที่ใกล้จะถึงนี้ และจะยังคงใช้คำสั่งห้ามการรวมตัวเป็นกลุ่มในบ้านและต้องสวมหน้ากากอนามัยหากอยู่ภายในอาคาร
นายเจมส์ เมอร์ลิโน รักษาการมุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า แม้จะยกเลิกการใช้มาตรการล็อกดาวน์ตามกำหนด แต่ทุกคนรู้ดีว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่จบสิ้นจนกว่าออสเตรเลียจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ครอบคลุมทั่วรัฐวิกตอเรียและทั่วประเทศ โดยที่ในตอนนี้เชื้อโควิดจะยังคงอยู่กับทุกคน ทั้งยังระบุว่า การผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ในนครเมลเบิร์นอาจมีขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ต่อจากนี้ในกรณีที่ไม่พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่รัฐวิกตอเรียรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในประเทศเพียง 1 คน ซึ่งเป็นตัวเลขน้อยสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์และลดลงจากวันก่อนหน้าที่มี 2 คน ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 30,200 คน และผู้เสียชีวิต 910 คน.-สำนักข่าวไทย