โตเกียว 20 พ.ย.- ผู้กำหนดนโยบายค่าเงินในประเทศเอเชียที่พึ่งพาการส่งออกวิตกว่า เงินดอลลาร์สหรัฐที่กำลังแข็งค่าขึ้นอาจถูกรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้เป็นข้ออ้างในการดำเนินนโยบายที่ไม่เป็นมิตรด้วยการกล่าวหาว่าเอเชียบิดเบือนอัตราแลกเปลี่ยน
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 8 ปีเทียบกับเงินหยวนของจีน และแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือนครึ่งเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น เนื่องจากตลาดคาดว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ด้วยการทุ่มงบประมาณรายจ่ายและลดภาษีจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นและธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทรัมป์ประกาศระหว่างหาเสียงว่า จะตราหน้าจีนว่าเป็นผู้บิดเบือนค่าเงินตั้งแต่วันแรกที่ขึ้นตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้สามารถเรียกเก็บภาษีร้อยละ 45 กับสินค้าส่งออกของจีน ขณะนี้กระทรวงคลังสหรัฐกำลังพิจารณาเงื่อนไข 3 อย่างเพื่อประกาศชื่อประเทศบิดเบือนค่าเงิน ประกอบด้วยการได้ดุลการค้ากับสหรัฐมากอย่างมีนัยสำคัญ การได้ดุลบัญชีเดินสะพัดกับสหรัฐอย่างมีนัยสำคัญ และการแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนแต่ฝ่ายเดียวตลอดเวลา นักวิเคราะห์เตือนว่า รัฐบาลทรัมป์ที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งสองสภาอาจผ่านร่างกฎหมายแก้ไขเงื่อนไขเหล่านี้ได้สามารถตราหน้าประเทศบิดเบือนค่าเงินได้ง่ายขึ้น ประเทศที่อยู่ในข่ายถูกประกาศได้แก่จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน เยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์.-สำนักข่าวไทย