แวนคูเวอร์ 30 พ.ค.- กลุ่มชนพื้นเมืองในแคนาดาเรียกร้องคริสต์จักรคาทอลิกขอโทษที่มีส่วนร่วมในนโยบายยุคก่อนของแคนาดาที่บังคับเด็กพื้นเมืองไปอยู่โรงเรียนประจำ หลังจากมีการพบศพเด็ก 215 คนในสถานที่ที่เคยเป็นโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งในรัฐบริติชโคลัมเบีย
หัวหน้ากลุ่มชนพื้นเมืองคัมลูปส์ เด ซูเวปมัก เฟิร์ส เนชัน (Tk’emlups te Secwépemc First Nation) แจ้งเมื่อวันพฤหัสบดีเรื่องการพบศพเด็กจำนวนมาก ณ สถานที่ที่เคยเป็นที่ตั้งของโรงเรียนประจำอินเดียคัมลูปส์ที่คริสตจักรคาทอลิกเป็นผู้ดำเนินการ และถูกปิดไปในปี 2521 เชื่อว่า มีศพอีกมากที่ยังไม่พบเนื่องจากยังค้นหาไม่ทั่ว ทางกลุ่มเตรียมชันสูตรพลิกศพเด็กทั้งหมด บางศพอายุเพียง 3 ขวบเท่านั้น และเรียกร้องอีกครั้งให้คริสตจักรคาทอลิกขอโทษที่มีส่วนร่วมในนโยบายของแคนาดายุคคริตศตวรรษที่ 19 และ 20 ที่พรากเด็กชนพื้นเมืองจากครอบครัวไปอยู่ในโรงเรียนประจำของรัฐ
นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดทวีตเมื่อวันศุกร์ว่า เป็นสิ่งย้ำเตือนที่เจ็บปวดว่าแคนาดามีหน้าประวัติศาสตร์ที่ดำมืดและน่าละอาย เขาเคยถวายหนังสือถึงสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ขอให้คริสตจักรขอโทษตามที่คณะกรรมาธิการค้นหาความจริงและความปรองดองของแคนาดามีความเห็นในปี 2558 ว่า คริสตจักรมีส่วนร่วมใน “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทางวัฒนธรรม”
รายงานของวอชิงตันโพสต์ระบุว่า เด็กชนพื้นเมืองเกือบ 150,000 คน ที่เข้าโรงเรียนระหว่างปี 2426-2539 เพื่อปรับตัวให้กลมกลืนกับสังคมคนผิวขาวในแคนาดา ส่วนใหญ่ถูกละเลยและข่มเหง เพราะถูกห้ามพูดภาษาถิ่นและรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิม รัฐบาลแคนาดาเคยขอโทษในปี 2551 ยอมรับว่า มีการทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศเด็กในโรงเรียนเหล่านี้อย่างมากมาย.-สำนักข่าวไทย