ยะโฮร์ 27 พ.ค. – สุลต่านอิบราฮิม อิสกันดาร์ แห่งรัฐยะโฮร์ของมาเลเซีย เรียกร้องให้รัฐบาลมาเลเซียพิจารณาใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ หากยังคงพบยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สุลต่านอิบราฮิมออกแถลงการณ์ในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่มาเลเซียพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 7,478 คน ทำสถิติมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศ และมียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่สูงกว่าวันละ 6,000 คนติดต่อกันเป็นวันที่แปด ในขณะที่กำลังเผชิญกับปัญหาในการควบคุมการระบาดระลอกที่สาม แถลงการณ์ของสุลต่านอิบราฮิมระบุว่า มาเลเซียพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่กว่า 7,400 คนในวันนี้ ตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับน่าหวาดหวั่น และทางการจำเป็นต้องให้ประชาชนส่วนใหญ่อยู่แต่ในบ้านเพื่อตัดห่วงโซ่การระบาด เนื่องจากเชื้อโควิดแพร่กระจายผ่านการรวมตัวของผู้คน พร้อมยังระบุเพิ่มเติมว่า ชาวมาเลเซียต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ ฝึกล็อกดาวน์ตัวเอง หรือป้องกันการเสี่ยงติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีข้อบังคับที่ใช้ครอบคลุมทั่วทุกระดับเพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการล็อกดาวน์จะป้องกันสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับทุกคน และรัฐบาลมาเลเซียควรพิจารณาใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบเช่นกัน หากยอดผู้ป่วยติดเชื้อไม่มีวี่แววลดลง
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลมาเลเซียได้ประกาศใช้คำสั่งควบคุมการเคลื่อนไหวทั่วประเทศ (MCO) ไปจนถึงวันที่ 7 มิถุนายนนี้ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ประชาชนบางส่วนกลับไม่พอใจที่ภาคเศรษฐกิจยังคงได้รับอนุญาตให้ดำเนินการต่อไปได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซียเตือนว่า การใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบดังเช่นในเดือนมีนาคมปีก่อนที่สั่งปิดกิจการทุกภาคส่วนจะช่วยรับประกันความปลอดภัยของประชาชน แต่ก็เสี่ยงต่อการทำให้เศรษฐกิจมาเลเซียล่มสลาย ขณะนี้มาเลเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 533,300 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,400 คน.-สำนักข่าวไทย