สหรัฐกดดัน WHO-จีน หาต้นตอโควิดให้ชัดเจน

สหรัฐ 26 พ.ค.- รัฐบาลสหรัฐกดดันให้เร่งสืบสวนหาต้นตอของไวรัสโคโรนา 2019 จี้องค์การอนามัยโลกและจีน ให้คำตอบสุดท้ายต่อประชาคมโลก


นายแอนดี สลาวิตต์ ที่ปรึกษาด้านไวรัสโควิด-19 ของทำเนียบขาว แถลงกดดันให้สืบสวนหาต้นตอการระบาดของโควิด-19ให้ชัดเจน โดยที่องค์การอนามัยโลกและจีน ต้องให้คำตอบสุดท้ายกับปริศนาของโรคโควิด-19 ต่อประชาคมโลก โดยจีนต้องมีกระบวนการที่โปร่งใส และองค์การอนามัยโลก ต้องเข้ามาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ขณะที่ ดร.แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของสหรัฐ กล่าวด้วยว่าจำเป็นต้องหาที่มาของการระบาดให้ชัดเจน เพราะทุกวันนี้ ยังไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริงเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นปีทีมผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกได้เข้าไปตรวจสอบที่จีน แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปแน่ชัดได้ มีเพียงการคาดการณ์หรือคาดเดากันว่าเป็นการระบาดจากสัตว์สู่คน หรือ อาจหลุดออกจากห้องทดลองของรัฐบาลจีนในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งพบการระบาดครั้งแรกของโลก

ส่วนในสหรัฐเองซึ่งเป็นประเทศที่เสียหายจากโควิด-19 หนักที่สุดทั้งผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต ขณะนี้การฉีดวัคซีนคืบหน้ามาก แต่เริ่มมีอัตราการฉีดลดลงเพราะความไม่มั่นใจของผู้คน ช่วงนี้เพิ่งเริ่มฉีดให้ประชากรกลุ่มวัยรุ่นที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ สร้างบรรยากาศการให้ดูสนุกสนาน มีการแสดงวงดุริยางค์ เชียร์ลีดเดอร์ รถขายอาหารฟู้ดทรัค ตัวมาสคอตและป้ายเชิญชวน เป็นการเชิญชวนให้ฉีดวัคซีน


ส่วนประเทศที่ระบาดรุนแรงอันดับสอง แต่วิกฤติรุนแรงที่สุดในขณะนี้ คือ อินเดีย พบการแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่เขตชนบท ซึ่งขาดแคลนบริการสาธารณสุข อย่างที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในรัฐโอริสสา หลายคนต้องเดินทางหลายกิโลเมตรเพื่อเข้าเมือง แต่ไม่รับประกันว่าจะมีเตียงคนไข้รองรับรือไม่ แม้มีอาสาสมัครเข้มาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรค แต่ก็ไม่เพียงพอทำให้ชาวบ้านเบาใจลงได้ ขณะเดียวกัน อินเดียเผชิญภัยธรรมชาติซ้ำเติม หลังจากถูกไซโคลน เตาะแต่ ถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้เสียชีวิตมากกว่า 150 คน ขณะที่วันนี้ (26 พ.ค.) ไซโคลน “ยาอาส” จะพัดขึ้นฝั่งด้านตะวันออกของอินเดีย เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงในรัฐโอดิชาและเวสต์เบงกอล จากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้รับมือพายุและอพยพผู้คนเป็นไปอย่างยากลำบากมากกว่าช่วงเวลาปกติด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น